อดีตซีอีโอ"ซิตี้กรุ๊ป"รับเละ 42 ล้านดอลล์ หลังไขก๊อกลาออก

          ชาร์ลส์ พรินซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินใหญ่อันดับ 1 ของสหรัฐ ซึ่งประกาศลาออกแล้วและจะทำงานจนถึงสิ้นปีนี้ จะได้รับเงินราว 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากหุ้น โบนัส และผลประโยชน์อื่นๆ แต่มูลค่าที่ พรินซ์ ได้รับอาจลดลง หากหุ้นของบริษัทราคาร่วงเพิ่มขึ้นอีก โดยขณะนี้ เขาถือหุ้น 1.61 ล้านหุ้นคิดเป็นมูลค่าราว 53 ล้านดอลลาร์
          ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐว่า บริษัทจะมอบหุ้น 29.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออปชั่น และเงินบำนาญให้กับ พรินซ์ 
          เงินโบนัสปลายปีที่เขาได้รับจะขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ณ สิ้นปี 2550 ซึ่งขณะนี้เงินโบนัสมีมูลค่าราว 12 ล้านดอลลาร์ โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป รูดลงแล้ว 41% ในปีนี้ และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ร่วงอีก 51 เซนต์ลงมาปิดที่ 32.90 ดอลาร์
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ซิตี้กรุ๊ป ขาดทุนที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อและมูลค่าสินทรัพย์ลดลงมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ผลกำไรตกฮวบ 57% และได้มีการประเมินกันว่าธนาคารจะขาดทุนอีก 8-1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ 
          นอกจากนี้ นายเจฟฟรีย์ แฮริส ผู้ถือหุ้นของซิตี้กรุ๊ป ได้ยื่นฟ้องผู้บริหารของซิตี้กรุ๊ป กรณีเข้าซื้อสินเชื่อบ้านที่ปล่อยกู้จำนองแก่ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ หรือ ซับไพรม์ แล้วนำมาออกเป็นหลักทรัพย์จำหน่ายทั้งที่สินเชื่อดังกล่าวมีปัญหาและกำลังเกิดวิกฤติ รวมทั้งออกแถลงการณ์ที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับวงเงินลงทุนที่เสียหายจากการลงทุน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสินเชื่อซับไพรม์
          รายงานข่าวระบุว่า คำฟ้องยังเรียกร้องให้ซิตี้กรุ๊ป ต้องชดใช้ความเสียหายและต้องปรับปรุงธรรมาภิบาลและกระบวนการการทำงานภายในของบริษัท ซึ่งก่อนหน้าการฟ้องร้องของ นายแฮริส ซิตี้กรุ๊ป ก็ถูกกลุ่มผู้รับผลประโยชน์จากโครงการเกษียณของ ซิตี้กรุ๊ป ฟ้องร้องมาแล้ว โดยกล่าวหาว่ามีการลงทุนที่ไม่โปร่งใสและบริหารจัดการผิดพลาด