FED ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ขยายตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 1, 2007 06:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 4.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ เฟดยังประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.25% สู่ระดับ 5.0% 
ทั้งนี้ นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน หลังจากที่เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
เฟดได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุม โดยใจความบางตอนระบุว่า "เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลง"
"การที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในวันนี้ ก็เพื่อช่วยลดผลกระทบในตลาดการเงินและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นในระดับปานกลาง"
"ในส่วนของเงินเฟ้อนั้น ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดพลังงานและอาหาร ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นปานกลางในปีนี้ แต่ราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เฟดมองว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ดังนั้น เฟดจะยังคงติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างระมัดระวัง"
"นอกจากนี้ เฟดจะประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินและจะประเมินเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน อีกทั้งจะดำเนินการทุกอย่างเท่าที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยื่นยืน" แถลงการณ์ของเฟดระบุ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทมองว่าแถลงการณ์ของเฟดครั้งล่าสุดนี้เสมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งหน้า นอกจากนี้ นักวิเคราะห์กังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 4 อาจชะลอตัวลงรุนแรงกว่าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อันเป็นผลมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ