นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดจะออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจปีละ 4 ครั้ง แทนที่จะออกเพียง 2 ครั้งเช่นในปัจจุบัน เพื่อให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจให้ถูกต้องและสอดคล้องกับจังหวะระยะเวลามากขึ้น
"เนื่องจากนโยบายการเงินมีผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายและเงินเฟ้อ ซึ่งที่ผ่านมานั้นเรายังล้าหลังอยู่ จึงทำให้เฟดมองว่าจะต้องพิจารณาเรื่องนโยบายโดยยึดถือการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางเป็นหลัก" เบอร์นันเก้กล่าวในที่ประชุมนโยบายการเงินซึ่งจัดขึ้นที่สถาบันคาโต
"อย่างไรก็ตาม เฟดไม่สามารถตัดสินใจใดๆได้อย่างเต็มที่หากไม่มีการแบ่งปันมุมมองเศรษฐกิจร่วมกับนักลงทุนและสภาคองเกรส"
"ทั้งนี้ แถลงการณ์คาดการณ์ของเฟดจะมีการเผยแพร่ในเดือนก.พ.และเดือนก.ค.ของทุกปี เพื่อจัดทำเป็นรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีและแถลงต่อสภาคองเกรส ส่วนแถลงการณ์ที่เพิ่มเข้ามาอีก 2 ชุดนั้น จะเปิดเผยควบคู่ไปกับรายงานการประชุมของเฟดซึ่งจะเผยแพร่ในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 4 ของทุกปี" เบอร์นันเก้กล่าว
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า แถลงการคาดการณ์ชุดแรกจะเผยแพร่ในวันที่ 20 พ.ย.ควบคู่กับรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนต.ค. เพราะเฟดเล็งเห็นว่าการทำให้นักลงทุนเข้าใจกลยุทธ์และเป้าหมายของเฟดจะช่วยลดความผันผวนในตลาด อีกทั้งจะช่วยให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนสามารถตัดสินใจด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้นหลังจากที่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว
"ดังนั้น นักลงทุนจะเข้าใจนโยบายของเฟด ตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมา เข้าใจแนวโน้มราคาหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ได้ดียิ่งขึ้นด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--