นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยแถลงกรณีเหมืองอัครา โดยคาดการณ์คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดท จำกัด ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด และรัฐบาลไทยว่า ปัจจุบันยังไม่มีคำพิพากษาชี้ขาดออกมา ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งเป็นกระบวนการปกติที่ดำเนินการคู่ขนานไปกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
ทั้งนี้ ประเทศไทยต่อสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการด้วยความรอบคอบรัดกุม ยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นหลัก ในส่วนที่ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่กระบวนการเจรจาเพื่อระงับข้อพิพาท ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลเชื่อว่าจะแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ แต่เป็นกระบวนการที่ดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของคู่พิพาททั้งสองฝ่าย ขอให้ฝ่ายค้านรอการตัดสินชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ไม่ควรรีบออกมาคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต สร้างความสับสนให้กับประชาชนและสังคม
นายธรกร กล่าวอีกว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 72/2559 ลงวันที่ 13 ธ.ค.59 เรื่อง การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ระงับการประกอบกิจการไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ว่าพื้นที่ประทานบัตรจะอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใดก็ตาม เป็นการคุ้มครองและป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ไห้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเฉพาะหน้าด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมปนเปื้อนอย่างทันท่วงที และคำสั่งดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบคอบระมัดระวัง พอสมควรแก่เหตุ โดยให้ยุติการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำปิดเหมืองทองทั่วประเทศชั่วคราว โดยไม่เลือกปฏิบัติ
"รัฐบาลยืนยันต่อสู้ตามกติกาสากล และคดีดังกล่าวก็อยู่ระหว่างการดำเนินการในอนุญาโตตุลาการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เคยชี้แจงในการประชุมรัฐสภาเกี่ยวกับประเด็นเหมืองทองอัครา ปฏิเสธไม่ได้ใช้ ม.44 ปิดเหมือง แต่เป็นเรื่องการต่อสัมปทานให้ปรับปรุงแก้ไข หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพ"นายธนกร กล่าว