ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 ต.ค.) ที่ 32.80-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ตัวเลขการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยเดือนก.ย.
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core Price Index เดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. และจีดีพีไตรมาส 3/64 (advance) นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม ECB และ BOJ ข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.จีน และจีดีพีไตรมาส 3/64 ของยูโรโซน
โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-21 ต.ค.) เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ขยับอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบสัปดาห์ก่อน โดยเงินบาทอ่อนค่าลงท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของกลุ่มผู้นำเข้า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับประมาณ 1.67% อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทถูกจำกัดไว้บางส่วน ตามจังหวะการสลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์
ในวันพฤหัสบดี (21 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.38 เทียบกับระดับ 33.31 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ต.ค.)