ผู้บริหาร KBANK คาดปี 51 ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ-ค่าครองชีพ-ต้นทุนสูงขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 6, 2007 10:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) คาดว่า ในปีหน้าการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำมากระตุ้นเศรษฐกิจคงไม่ได้ผล และเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมาที่ 3.5-3.7% จากผลกระทบราคาน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพปรับสูงขึ้น ประกอบกับการออกพันธบัตรของทางการเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกจะทำให้ต้นทุนในการระดมทุนของเอกชนสูงขึ้นด้วย  
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้เพิ่มขึ้นจากปีนี้ แต่ก็มีปัจจัยลบสำคัญที่ต้องระวัง คือ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป รวมทั้งประเด็นทางด้านการเมืองในประเทศที่จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาภายหลังการเลือกตั้งปลายปีนี้
นายประสาร กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในปีหน้ายังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้นมาที่ 87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงขึ้นจากประมาณการเดิมที่ธนาคารคาดไว้ที่ 77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศสูงกว่า 31 บาท/ลิตร จะส่งแรงกดดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับคาดการณ์ 3.5-3.7% ได้
ดังนั้น ในปี 51 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น จากทิศทางค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งภาครัฐควรเร่งผลักดันการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนเพื่อให้เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แทนการส่งออกที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในปีนี้และมีแนวโน้มชะลอตัวในปีหน้า ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบมาจากปัญหาซับไพร์มในสหรัฐที่ยังไม่หมดไป ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และนักลงทุนจะโยกเงินเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชีย อาจกดดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้อีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ