อธิบดีกรมการค้าภายใน ออกมาปรามผู้ประกอบการห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า โดยอ้างมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่รัฐจะประกาศลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ซึ่งส่งผลให้ราคาปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1.29 บาท เนื่องจากประเมินแล้วส่งผลให้ต้นทุนราคาสินค้าเพิ่มขึ้นน้อยมาก
"คงไปห้ามปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มไม่ได้ เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ ทำได้แค่เพียงบอกว่าการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในช่วงที่น้ำมันแพงเหมาะสมหรือไม่เท่านั้น แต่จากการศึกษาระบุชัดเจนว่า หากปรับขึ้นก็กระทบไม่มาก การที่ผู้ผลิตสินค้าจะอ้างว่าต้นทุนเพิ่มแล้วปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น" นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว
ทั้งนี้ หากมีการประกาศลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มแล้ว ภาคครัวเรือนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะใช้ก๊าซหุงต้มสูงถึง 55% รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า การปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาท จะทำให้ครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเดือนละ 15 บาท/ถังบรรจุก๊าซ 15 กิโลกรัม ส่วนอาหารสำเร็จรูป เช่น ก๋วยเตี๋ยว เพิ่มขึ้น 3-4 สตางค์ต่อชาม, รถแท็กซี่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นวันละ 40 บาท และสินค้าที่ใช้ก๊าซหุงต้มเป็นส่วนผสม เช่น สเปรย์ ยากำจัดแมลง มีต้นทุนเพิ่ม 8-10 สตางค์/ขวด เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้สั่งการให้สายตรวจกรมการค้าภายในทั่วประเทศออกตรวจสอบร้านค้าก๊าซหุงต้ม และโรงบรรจุก๊าซแล้ว โดยให้ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าว่าตรงกับราคาที่ปรับขึ้นจริงหรือไม่ และตรวจสอบน้ำหนักที่บรรจุที่ว่าตรงกับที่ระบุข้างถังหรือไม่ หากพบขายเกินราคาที่กำหนดจะมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับวันที่ 20 พ.ย.นี้ กรมการค้าภายในจะเชิญสมาคมผู้ค้าก๊าซมาหารือถึงค่าบริการส่งก๊าซไปยังบ้านเรือนประชาชน หลังสมาคมฯ ต้องการปรับราคาโดยอ้างราคาน้ำมันสูงขึ้น จากปัจจุบันที่ร้านค้าก๊าซคิดค่าขนส่งเพิ่มอีก 5 บาทหากประชาชนต้องการให้ส่งด่วนในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--