ส.อ.ท.เปิดผลสำรวจราคาพลังงานพุ่งกระทบต้นทุนการผลิต หนุนตรึงค่า FT-ลดภาษี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 28, 2021 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 11 ในเดือนตุลาคม 2564 ภายใต้หัวข้อ "ราคาพลังงานพุ่งแรง กระทบภาคอุตสาหกรรมแค่ไหน?" พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคอุตสาหกรรมในระดับปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะในเรื่องต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

ดังนั้นจึงเสนอขอให้ภาครัฐช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ด้วยการตรึงราคาค่าไฟฟ้า (FT) จนถึงสิ้นปี 2564 การปรับสูตรและโครงสร้างราคาพลังงาน ชั่วคราว 3 - 6 เดือน เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งดำเนินนโยบายในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในระยะยาว

สรุปผลจากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ดังนี้

  • ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมระดับใด
          อันดับที่ 1 : กระทบปานกลาง							           49.3%
          อันดับที่ 2 : กระทบมาก								           38.0%
          อันดับที่ 3 : กระทบน้อย								           12.7%
  • ปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน
          อันดับที่ 1 : นโยบายการผลิตน้ำมันของประเทศกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน		                        76.7%
          อันดับที่ 2 : การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลทำให้อุปสงค์ด้านพลังงานเพิ่มสูงขึ้น         68.7%
          อันดับที่ 3 : ความผันผวนของค่าเงิน และภาวะเงินบาทอ่อนค่า			             53.3%

อันดับที่ 4 : อุปสงค์ด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ฤดูหนาวในกลุ่มประเทศฝั่งตะวันตก 51.3%

  • ปัจจุบันต้นทุนด้านพลังงานของธุรกิจท่านคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับต้นทุนในการประกอบการ
          อันดับที่ 1 : ต้นทุนด้านพลังงาน 10 - 20%					             46.0%
          อันดับที่ 2 : ต้นทุนด้านพลังงาน น้อยกว่า 10%			 		             24.0%
          อันดับที่ 3 : ต้นทุนด้านพลังงาน 30  50%					             20.0%
          อันดับที่ 4 : ต้นทุนด้านพลังงาน มากกว่า 50%					            10.0%
  • แนวโน้มราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในเรื่องใด
          อันดับที่ 1 : ต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้น			             88.0%
          อันดับที่ 2 : ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ปรับตัวสูงขึ้น			             84.0%
          อันดับที่ 3 : เกิดภาวะเงินเฟ้อ และกระทบต่อกำลังซื้อ/การบริโภคของภาคเอกชน	             34.0%
          อันดับที่ 4 : ขาดแคลนวัตถุดิบจากจีน จากภาวะขาดแคลนพลังงาน		             25.3%
  • ภาครัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นอย่างไร
          อันดับที่ 1 : ตรึงราคาค่าไฟฟ้า (FT) จนถึงสิ้นปี 2564				              66.0%
          อันดับที่ 2 : ปรับสูตรและโครงสร้างราคาพลังงาน ชั่วคราว 3 - 6 เดือน                            56.7%

เพื่อลดภาระผู้ประกอบการ

          อันดับที่ 3 : จัดสรรงบประมาณหรือใช้เงินกองทุน เพื่อชดเชย			              54.0%
และตรึงราคาพลังงานทุกประเภท
          อันดับที่ 4 : ลดอัตราภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม				              53.3%
เพื่อลดราคาขายปลีกน้ำมัน LPG และ NGV
  • ภาครัฐควรดำเนินนโยบายด้านพลังงานในระยะยาวอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และลดผลกระทบจากราคาพลังงานที่ผันผวน
          อันดับที่ 1 : ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล     	    74.7%

อันดับที่ 2 : ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน และนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 72.7%

          อันดับที่ 3 : ปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าและความร้อน	               64.0%
          อันดับที่ 4 : ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 					               44.0%
  • ภาคอุตสาหกรรมควรมีการปรับตัวรับมือกับราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร

อันดับที่ 1 : นำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้เพื่อลดและประหยัดพลังงาน 77.3%

          อันดับที่ 2 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงานมาใช้ ปรับแผนการผลิต		               73.3%
และโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุน

อันดับที่ 3 : การใช้พลังงานหมุนเวียนภายในโรงงาน หรือผลิตไฟฟ้าใช้เอง 71.3% เช่น Solar cell, Biogas, Biomass

อันดับที่ 4 : สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานและเทคนิคการใช้พลังงาน อย่างประหยัด 59.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ