ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียจะเติบโตที่ระดับ 6.4% ในปี 2551 จากที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.3% ในปีนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการลงทุนและความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
ธนาคารโลกกล่าวในรายงานเศรษฐกิจในภูมิภาคช่วงกลางปีว่า ตัวเลขการลงทุนในอินโดนีเซียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า เนื่องจากอัตราการใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น รวมถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
"ตัวเลขการลงทุนที่สูงขึ้นคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ชดเชยการส่งออกที่ชะลอตัวลงในปี 2551 ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องสินค้าทั่วโลกที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ภาวะวิกฤตตลาดซับไพรม์และเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลง" ธนาคารกล่าว
นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าส่งออกของอินโดนีเซียจากกลุ่มประเทศในเอเชียที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมที่ซบเซาลงได้
ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียจะขยายตัว 112.1% ในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 8.4% ในปี 2551 ขณะที่ยอดนำเข้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.8% ในปีนี้ และเติบโต 12.4% ในปี 2551 ส่วนอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6% ในปีหน้า จากระดับ 6.5% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังขึ้นอยู่กับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันโลกจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า รวมถึงภาวะวิกฤตตลาดซับไพรม์ของสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก และสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวในระดับปานกลาง
ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันอยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์ในปี 2551 อาจสร้างแรงกดดันให้กับอัตราเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่องบประมาณของประเทศได้ ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--