ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงช่วงบ่ายวันนี้ (15 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม หลังจากที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ออกมาแข็งแกร่ง
ค่าเงินดอลลาร์ยังร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินสหรัฐมากนัก หลังจากที่สถาบันการเงินหลายแห่งประสบภาวะขาดทุนจากปัญหาซับไพรม์ จนกลายเป็นปัจจัยที่ฉุดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินสหรัฐในตลาดปริวรรตเงินตรา
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรซื้อขายกันที่ 1.4673 ดอลลาร์ต่อยูโร เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4644 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยน โดยล่าสุดมีการซื้อขายที่ 111.33 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 111.135 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้านี้
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งได้มีการเผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมายังช่วยตอกย้ำกระแสคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจในเขตทวีปยุโรปขณะนี้ขยายตัวสูงเกินกว่าที่จะทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่าอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในช่วงไตรมาสที่สามจากระดับ 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่าธนาคารกลางยุโรปจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับที่ธนาคารตั้งเป้าไว้
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความวิตกกังวลว่า ธนาคารหลายแห่งจะรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่เพราะปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ธนาคารอาจต้องตัดบัญชีหนี้สูญอีก 3.4 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนในตลาดซับไพรม์ในช่วงไตรมาสที่สาม หลังจากที่ ธนาคารได้ตัดบัญชีหนี้สูญไปแล้วหลายพันล้านเมื่อช่วงต้นปี
ด้านซามูเอล โมลินาโร หัวหน้าฝ่ายการเงินของวาณิชธนกิจแบร์ สเติร์นส กล่าวว่า ธนาคารต้องตัดบัญชีหนี้สูญเป็นวงเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้การดำเนินงานโดยภาพรวมในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 พ.ย.ขาดทุนอย่างหนัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--