นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์ ที่มอบหมายให้ทีมเซลล์แมนเร่งหาตลาดให้ผลไม้ไทยทั้งในและต่างประเทศ โดยกรมฯ ได้เร่งผลักดันให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออก ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อขยายตลาดส่งออกผลไม้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศคู่ FTA ของไทยที่ไม่เก็บภาษีนำเข้ากับผลไม้ส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากไทยแล้ว
ทั้งนี้ ไทยทำ FTA รวม 13 ฉบับกับ 18 ประเทศ โดยคู่ FTA 12 ประเทศ ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู บรูไนฯ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้ากับผลไม้สด แช่แข็งและแห้ง ที่ส่งออกจากไทยทุกชนิดแล้ว ส่วนอีก 6 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ไม่เก็บภาษีนำเข้ากับผลไม้ส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากไทยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น ได้เปิดตลาดให้ผลไม้และน้ำผลไม้จากไทยเพิ่มเติมด้วย เช่น เกาหลีใต้ ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับทุเรียนสดและมังคุดสดส่งออกจากไทย และจีน ยกเลิกการเก็บภาษีน้ำสับปะรดและน้ำมะพร้าวส่งออกจากไทย เป็นต้น
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.64) ไทยส่งออกผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและผลไม้แห้งไปทั่วโลก มูลค่ารวม 5,164.68 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวถึง 52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยส่งออกไปประเทศที่ไทยมี FTA สัดส่วนสูงถึง 97% ของการส่งออกผลไม้ทั้งหมด โดยประเทศที่ส่งออกผลไม้ไทยขยายตัว เช่น จีน (+81%) มาเลเซีย (+129%) อินโดนีเซีย (+106%) สิงคโปร์ (+60%) เกาหลีใต้ (+41%) และญี่ปุ่น (+9%) ผลไม้ไทยที่ส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ทุเรียนสด (+67%) มะม่วงสด (+53%) ลำไยสด (+54%) เงาะสด (+33%) และมังคุดสด (+15%)
ปัจจุบันไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกผลไม้อันดับที่ 7 ของโลก โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน ได้แก่ ทุเรียนสด มังคุดสด และลำไยสด ซึ่งเป็นผลไม้ยอดนิยมที่ไทยครองแชมป์ส่งออกสูงเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ขณะที่ไทยส่งออกมะม่วงสด อันดับที่ 2 ในอาเซียน (รองจากเวียดนาม) และเป็นอันดับที่ 7 ของโลก