ชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก้ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2.5%
แวนส์กล่าวในมหกรรมงานตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและอ๊อพชั่นประจำปีครั้งที่ 23 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมอุตสาหกรรมตลาดล่วงหน้าว่า ปัจจัยบ่งชี้เศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ตัวเลขจ้างงานและภาวะเงินเฟ้อมีการขยายตัวที่เอื้อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าวิกฤตซับไพรม์จะยังไม่คลี่คลายลงก็ตาม
เขากล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2% จากอัตราเฉลี่ยในช่วงหลายไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 2.5% นอกจากนี้คาดว่า ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีต่อภาคการใช้จ่ายของสหรัฐในอนาคต
นอกจากนี้ อีแวนส์ยังอ้างถึงการประเมินเศรษฐกิจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดที่มีขึ้นในเดือนต.ค.ว่า "หากมองในด้านดีนั้น ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยลดผลกระทบที่ฉุดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้"
ทั้งนี้ ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโก้ระบุว่า เฟดยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการลงทุนในตลาดการเงินให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--