FED เตือนวิกฤติครั้งใหม่ในตลาดการเงินอาจกระทบศก.สหรัฐรุนแรงกว่าที่คิด

          นายโดนัลด์ คอห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวในที่ประชุมสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่กรุงวอชิงตันว่า ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น และอาจทำให้สถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้นต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในสหรัฐ
          "แม้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไปแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ภาวะผันผวนครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สถาบันการเงินจำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค" นายคอห์นกล่าว
          "คำถามที่หลายฝ่ายต้องการถามในเวลานี้ก็คือ เฟดกังวลเรื่องตัวเลขขาดทุนที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองหรือไม่ และเฟดยังใส่ใจเรื่องเครื่องมือการลงทุนและการควบคุมสินเชื่ออยู่หรือไม่ คำตอบก็คือ หากเฟดไม่ให้ความสนใจต่อสถานการณ์เหล่านี้ เฟดก็คงไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนและผลักปัญหาทุกอย่างให้ประชาชนเรียนรู้เอาเอง" เขากล่าว
          นอกจากนี้ นายคอห์นกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และเฟดจำเป็นต้องมีปฏิกริยาต่อเรื่องนี้อย่าง "ว่องไว" ซึ่งหนึ่งในปัญหาของความผันผวนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐคือ ตลาดปล่อยกู้อินเตอร์แบงค์ ซึ่งตลาดประเภทนี้ถดถอยลงอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายคอห์นทำให้นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทเชื่อว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. และทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 331.01 จุด หรือ 2.55% แตะระดับ 13,289.45 จุด เมื่อคืนนี้