นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ 33.27 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.22 - 33.35 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปิดแข็งค่าเป็นไปตามภูมิภาค โดยระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ เนื่องจากตลาดรอดูการประชุมของ ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) คืนพรุ่งนี้ (3 พ.ย. 64) เป็นหลัก
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.20 - 33.40 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.59 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 114.07 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1594 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1593 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,617.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด, +0.25% มูลค่าการซื้อขาย 76,900.88 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 628.47 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ระบุว่าจะใช้เวลา 15 วันนับจาก 1 พ.ย.เพื่อประเมินผล
ของการผ่อนคลายมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งล่าสุด และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้อง
กักตัวในเฟสแรก ก่อนจะพิจารณาว่าสมควรจะผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ
ด้วย
ขณะที่คาดว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 64 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยราว 6 แสนคน และ ในปี 65 จะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 5 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท/คน
- KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร คาดเศรษฐกิจไทยปี 65 โต 3.9% โดยเศรษฐกิจจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-
19 จนถึงปี 66 โดยมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าเริ่มฟื้นตัว หลังเปิดเศรษฐกิจและเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และมีอัตราการ
ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจกลับมาได้อย่างช้าๆ และการฟื้นตัวยังคงมีความเสี่ยงอยู่ โดยความเสี่ยงสำคัญในปี 65 คือการ
ระบาดในประเทศรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว อัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจจีน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยไทย
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก คาดการณ์ภาวะการส่งออกของไทยในปี 65
จะมีอัตราการขยายตัวที่ระดับ 5% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 12% เนื่องจากฐานที่ต่ำในปี 63 จากผลกระทบจากวิกฤตโค
วิด-19
- หัวหน้ากลยุทธ์องค์กร ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า แนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากสถานการณ์
โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลง ทำให้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆมาต่อเนื่อง รวมถึงได้เริ่มมีการเปิดประเทศ ทำให้
ภาพรวมของกิจกรรมในประเทศเริ่มกลับมา ส่งผลบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 4/64 และความมั่น
ใจของประชาชนกลับมาฟื้นขึ้น ส่งผลบวกต่อธนาคาร โดยเฉพาะในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อที่จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นและเริ่มเห็นการเติบโตใน
ช่วงไตรมาส 4/64
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้อภิปราย
เกี่ยวกับทิศทางของมาตรการปล่อยเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกรรมการรายหนึ่งได้เสนอให้มี
การยกเลิกการใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อผลกระทบทางเศรษฐกิจเริ่มบรรเทาลง
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะร้อนแรงเกินไป และแม้อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าปีก่อน ๆ แต่นั่น
ก็เป็นเพราะปัญหาการหยุดชะงักจากโรคโควิด-19