"เศรษฐา" แนะรัฐเสริมความเชื่อมั่นด้านสธ.หลังเปิดปท.-ปรับระบบภาษีสร้างความเท่าเทียม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2021 13:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) กล่าวในการสัมมนา "Boost Up Thailand 2022" ในหัวข้อ "เดินหน้าทะลุโจทย์ประเทศ 2022" ว่า การเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นเรื่องที่หลายๆคนรอคอยหลังจากที่ประเทศไทยเร่งเดินหน้าในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมากขึ้น และสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มดีขึ้น แม้ว่าจะเพิ่งผ่านมาเพียง 3 วัน แต่การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาถือว่าได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำให้ภาพของการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณที่ดีขึ้น และส่งผลต่อการสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจและประชาชนในการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศต่อไป

ขณะเดียวกัน ระบบสาธารณสุข การแพทย์ไทย มีความแข็งแกร่ง จะเห็นได้จากการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัครด้านสาธารณสุข (อสม.) ทุกคนทำงานหนัก แต่ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในรอบ 2-3 เกิดจากการผลิดพลาดเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ดังนั้น ภาครัฐควรสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสาธารณสึขด้วยการประกาศรับรองการฉีดเข็ม 3 และเข็ม 4 เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคนในประเทศมากขึ้น และป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีโอกาสขึ้นได้

สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจไทยหลังจากเปิดประเทศ มองว่าจะเริ่มค่อยเห็นการฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ จากการที่กิจกรรมการค้าขาย การทำงานต่างๆ ในประเทศกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ จะเห็นได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ SIRI ที่พนักงานและคนงานต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานกันมากขึ้น และลูกค้าเริ่มทยอยกลับมาเข้าเยี่ยมชมโครงการที่เปิดขายอยู่ ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากการที่ประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น แต่ยังต้องดูภาพรวมต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะยังมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นรอบใหม่ ซึ่งมองว่าหากมีการแพร่ระบาดอีกครั้ง การบริหารจัดการของภาครัฐควรเลือกการควบคุมในบางพื้นที่บางโซนที่มีความเสี่ยง ไม่ควรเลือกใช้การล็อกดาวน์ทั้งหมด เพราะเป็นวิธีการที่กระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

ในส่วนของภาคธุรกิจหลังจากการเปิดประเทศ มองว่าผู้ประกอบการต่างๆ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น จากสัญญาณบวกของเศรษฐกิจ และการที่นักลงทุนต่างชาติจะเริ่มทยอยกลับเข้ามาจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ โดยในส่วนของบริษัทหลังจากที่มีการประกาศกำหนดวันเปิดประเทศ ก็ได้เตรียมเดินหน้าในการมองหาโอกาสในการลงทุน เช่น การเตรียมซื้อที่ดิน การเตรียมความพร้อมเปิดการขายโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับภาพของเศรษฐกิจที่จะฟื้นกลับมา เพื่อให้บริษัทสามารถคว้าโอกาสในการสร้างรายได้เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทที่เร็วกว่ารายอื่นๆ

ขณะที่ในส่วนของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น บริษัทได้มีการลงทุนในส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล คือ การเข้าลงทุนใน บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ซึ่งเป็นการกระจายธุรกิจใหม่ และมองว่าเป็นสิ่งที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทมองว่าการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีจะต้องเป็นการลงทุนในเทคโนโลยีที่จับต้องได้ และมีความสำคัญที่จะสามารถสร้างประโยชน์ในการส่งผ่านไปต่อคนในรุ่นต่อไป ไม่ใช่การลงทุนเพื่อความต้องการเพียงแค่เหนือกว่าผู้อื่น

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า การสร้างความเท่าเทียมทางสังคมในประเทศไทย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองว่ามีความสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บภาษี ภาครัฐควรพิจารณาการจัดเก็บภาษีบางประเภทให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับรายได้ของประชาชน มีการจัดเก็บภาษีตามรายได้ที่หามาได้อย่างเท่าเทียม เพราะคนที่ตัวเล็กกว่าที่เพิ่งเริ่มต้นการฟื้นฟูหลังจากภาครัฐมีมาตรการเยียวยายังมีศักยภาพไม่เต็มที่ เมื่อเทียบกับคนตัวใหญ่ หากเก็บภาษีในระดับที่ใกล้เคียงกันจะทำให้คนตัวเล็กได้รับผลกระทบมาก

พร้อมกันนั้น ยังมีข้อเสนอให้ภาครัฐเดินหน้าปรับปรุงการจัดเก็บภาษีมรดกและภาษีเกี่ยวกับความมั่งคั่งเพื่อทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมมากขึ้น

"คนที่รวยแสดงว่าเขามีการใช้ทรัพยากรของประเทศที่เยอะ ทำให้เขามีรายได้มีสินทรัพย์ต่างๆมาก เขาก็ควรที่จะคืนให้กับประเทศมากตามไปด้วย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่ที่ผมอยากให้ภาครัฐพิจารณา คือ การเพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย รวมถึงการดูแลเรื่องปากท้องของคนในประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเรื่องปากท้องเป็นสิ่งที่คนต้องใช้ชีวิตอยู่ได้" นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังปฏิเสธกระแสข่าวลือการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะเข้าไปสู่สนามการเมือง และยังคงต้องทำหน้าที่ในการบริหารงานที่ SIRI เพราะยังมีภารกิจอีกมากมาย อีกทั้งยังพอใจในการทำงานในฐานะนักธุรกิจมากกว่า

แต่ที่มีการเผยแพร่แนวคิดต่างๆออกมาเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล เพราะมองว่าในฐานะผู้ประกอบการภาคธุรกิจ การเสนอแนะแนวทางต่างๆที่เป็นทางเลือกที่ดีออกมา และมีคนเห็นว่าดีและนำไปใช้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ประเทศได้ ทำให้ประเทศสามารถเดินไปข้างหน้าได้เต็มที่มากขึ้น ซึ่งหากมองในบริบทของพรรคการเมืองที่จะเข้ามาเลือกตั้งในครั้งหน้า นโยบายด้านเศรษฐกิจนำจะเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศในยุคนี้ ทำให้คนในประเทศอยู่ดีมีสุข และมีความมั่งคั่งมากขึ้น และทำให้ประเทศพัมนาไปข้างหน้าได้มากยิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ