ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.44 อ่อนค่าจากช่วงเช้าสอดคล้องภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.30-33.50

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 4, 2021 17:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 33.44 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 33.26 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปิดอ่อนค่าเช่นเดียวกับภูมิภาค จากช่วงบ่ายมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่ ดอลลาร์โดนเทขาย หลังรับรู้ผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืนนี้ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.27 - 33.46 บาท/ดอลลาร์

"หลังผลประชุมเฟด ช่วงบ่ายนักลงทุนกลับเข้ามาซื้อดอลลาร์อีกครั้ง ส่งผลให้สกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่าในตอนเช้า และอ่อนค่า ในช่วงบ่าย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.30 - 33.50 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้อง ติดตามคืนนี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ ส่วนพรุ่งนี้ต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.05 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 114.15 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1549 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.27 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด, +0.89% มูลค่าการซื้อขาย 85,650.24 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,661.30 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (CCI) เดือน ต.
ค.64 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 เป็นต้นมา หลังจากผู้บริโภคเริ่ม
คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในประเทศไทย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเริ่มมีแนวโน้มลดลง ประกอบการฉีด
วัคซีนในประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงการคลายล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศ จะส่งผลในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้
บริโภคให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • หอการค้าไทย แนะรัฐบาลควรใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 อีกราว 5 แสนล้านบาท ผ่าน
โครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน โครงการจ้างงานผู้จบใหม่, การจ้างงานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น ซึ่งเม็ดเงินจำนวน
ดังกล่าวจะช่วยให้จีดีพีขยายตัวได้ 3-4% จากเป้าที่ตั้งไว้ 5% โดยภาวะเศรษฐกิจจะกลับคืนสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ใน
ปี 62 และมีอัตราการเติบโตที่สร้างความเชื่อมั่น
  • ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence
Index) ผลสำรวจในเดือน ต.ค.64 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3
เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 168.69 สูงสุดตั้งแต่เริ่มทำการจัดทำดัชนี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ "ร้อน
แรงอย่างมาก"

นักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาด ของโควิด-19 ระลอกใหม่หลังเปิดประเทศ รองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด19 ChulaCov19 mRNA เพื่อทำการทดสอบ
ทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีน เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน กรอบวงเงิน 2,316 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการ
โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Baiya) กรอบวงเงิน 1,309 ล้านบาท ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงการ
อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (อว.) โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินเพิ่มเติมฯ พ.ศ.2564
  • ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ได้ออกแถลงการณ์เตือนให้ตลาดเฝ้าระวังความเสี่ยง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ประกาศเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนนี้
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขนานใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตัดสินใจที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อน
คลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อคืนที่ผ่านมา
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโนบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า BoE
อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือ
กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ