ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.34 แข็งค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อยตามทิศทางภูมิภาค จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 5, 2021 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.39 บาท/ดอลลาร์ เป็นไปตามแรงซื้อแรงขายทั่วไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลกและสกุลเงินในภูมิภาค โดย ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.27 - 33.39 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.20 - 33.45 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้อง ติดตาม คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ในคืนนี้

"สกุลเงินในภูมิภาคและเงินบาทกลับมาแข็งค่า และตลาดรอปัจจัยชี้นำถัดไป คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ"

นักบริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.79 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 113.81 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1542 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.22 จุด ลดลง 0.05 จุด, 0.00% มูลค่าการซื้อขาย 67,470.40 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,790.85 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณา
มาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน โดยปรับลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊ส
โซฮอล น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันดีเซลหมุนช้า และน้ำมันเตา ในอัตรา 0.05 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี และอัตรา
0.05 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 2 ปี จากเดิมที่ 0.10 บาทต่อลิตร โดยมีผลทันทีหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน ต.ค.64 อยู่ที่ระดับ 101.96 เพิ่มขึ้น 2.38% จาก ต.ค.63
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.64) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.99% จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้
0.8-1.2%
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะพิจารณาคงอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% หลังเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศและการคลายล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กิจกรรม
ทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น
  • คลัง เผยค่าใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มียอดสะสมรวม 128,897.8 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย
สะสม 65,515.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 63,382.3 ล้านบาท ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้มียอดใช้จ่ายสะสมส่วนประชาชนรวม
2,981 ล้านบาท
  • เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคเดโมแครตเปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีแนวโน้มที่จะโหวตร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้าน
โครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework - BIF) ในวันนี้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีวงเงินกว่า 1 ล้านล้าน
ดอลลาร์ และนำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณด้านบวก หลังจากที่การโหวตร่างกฎหมาย BIF ได้ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง เนื่องจากสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว

  • สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนอาจ
ตกลงกลับมาเปิดสถานกงสุลอีกครั้ง หลังจากที่ต้องถูกปิดไปเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐย่ำแย่ลงในยุคของอดีตประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการกลับมาเปิดสถานกงสุลจะช่วยสร้างความคืบหน้าสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าวระหว่างสองประเทศ
  • รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนน่าจะปรับตัวลดลงในปีหน้า เนื่องจากปัจจัยที่ก่อ
ให้เกิดเงินเฟ้อนั้นส่งผลเพียงชั่วคราว แต่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างช้าๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ