นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียจะร่วงลงต่อในสัปดาห์หน้า เนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อของสหรัฐอาจทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจซื้อน้อยลงในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีของสหรัฐ
"สหรัฐยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเอเชีย ซึ่งหากตัวเลขใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐซบเซาลงก็จะส่งผลกระทบถึงภาคส่งออกในเอเชียด้วย ทั้งนี้ แม้ความต้องการสินค้าในจีนที่ขยายตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชียและอาจช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เราคาดว่าเศรษฐกิจคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐได้" นายฉั่ว ฮัค บิน นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าว
ซิตี้กรุ๊ประบุว่า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) พบว่า กว่า 70% ของการค้าในภูมิภาคเอเชียประกอบไปด้วยสินค้าที่ใช้สำหรับกลุ่มผู้ผลิตที่นำเข้าสินค้าเพื่อส่งออกต่อไปยังสหรัฐและยุโรปอีกทอดหนึ่ง ดังนั้น เมื่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐชะลอตัวลง อุตสาหกรรมส่งออกในเอเชียก็ย่อมถูกกระทบด้วย
ความวิตกกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในสหรัฐเริ่มคุกรุ่นขึ้นเมื่อบริษัทวอล-มาร์ท ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของโลก และบริษัทเจซี เพนนี ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อีกรายหนึ่ง ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกัน โดยวอล-มาร์ท ได้ประกาศเพิ่มคาดการณ์ยอดขายประจำไตรมาส 4 หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่บริษัทเจซี เพนนี ประกาศลดคาดการณ์ยอดขายประจำไตรมาส 4 หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ร่วงลง 9%
"ภูมิภาคเอเชียและสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่มีเศรษฐกิจที่เกี่ยวพันกันเท่านั้น แต่ตลาดการเงินใน 2 ภูมิภาคยังเกี่ยวโยงกันอีกด้วย ซึ่งหมายความว่า ความเคลื่อนไหวใดๆที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อสหรัฐก็จะเป็นปัจจัยชี้นำภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียด้วย แม้นักวิเคราะห์บางรายมองว่าสถาบันการเงินในเอเชียมีตัวเลขขาดทุนในตลาดซับไพรม์ไม่มากนักก็ตาม" ซิตี้กรุ๊ปกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--