นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาปาล์ม และน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในช่วงนี้ที่มีการปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากในปีการผลิต 64 ผลผลิตปาล์มของประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นประเทศผู้ผลิตสำคัญ มีปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดลดลงมากกว่า 5% เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อแรงงาน และการเก็บเกี่ยวผลปาล์ม ทำให้ภาพรวมปริมาณผลปาล์มในตลาดโลกลดลง และราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงส่งผลให้ประเทศไทยสามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้น และราคาผลปาล์มในประเทศไทยปรับสูงขึ้นในเดือน ม.ค.-พ.ย. 64 เฉลี่ยอยู่ที่ 6.76 บาท/กิโลกรัม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกษตรกรที่ผลิตปาล์มคุณภาพดีสามารถขายได้ในราคา 10 บาท/กิโลกรัม ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี จากเดิมราคาเฉลี่ยปี 63 อยู่ที่ 4.78 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 41% ซึ่งถือว่าราคาที่มีการปรับสูงขึ้นชาวสวนปาล์มได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
สำหรับผลผลิตในประเทศในช่วงปลายปี ถือว่าเป็นฤดูกาลที่ผลปาล์มออกจะสู่ตลาดน้อย แต่ผลผลิตถั่วเหลืองตลาดโลกในฤดูกาลใหม่ได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 5% ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันถั่วเหลืองเข้ามาทดแทนในระบบมากขึ้น
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาผลปาล์ม และน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้น กรมการค้าภายใน ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสกัดในการตรึงราคา แม้ว่าน้ำมันปาล์มดิบจะมีราคาปรับสูงขึ้นจากปี 63 เฉลี่ยที่ 28.10 บาท/กิโลกรัม เป็นในเดือน ม.ค.-พ.ย. 64 เฉลี่ยที่ 37.24 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 33% สำหรับราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในห้างค้าปลีก-ค้าส่ง อยู่ที่ 50-53 บาท/ขวด ซึ่งเพิ่มจากช่วงก่อนหน้านี้ 46 บาทต่อขวด หรือเพิ่มขึ้น 12% ซึ่งสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ชาวสวนปาล์มได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะนำไปช่วยหมุนเวียนในเศรษฐกิจต่อไป
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามการจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ราคาเนื้อสุกร และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการฉวยโอกาส สามารถแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง