นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือกับสำนักงบประมาณ หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้ไปเร่งหารือเพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ซึ่งยังมีความต้องการใช้เงินอีก 7.6 หมื่นล้านบาทนั้น ว่าจะสามารถดึงแหล่งเงินในส่วนใดมาดำเนินการได้บ้าง
"เบื้องต้น สศค. ได้คุยกับสำนักงบประมาณแล้ว ตอนนี้กำลังดูกันอยู่ว่ามีช่องทางไหนบ้าง มีแหล่งเงินตรงไหนอย่างไร จะมาจากส่วนไหนได้บ้าง โดยเชื่อว่าหลังจากกระทรวงการคลังกับสำนักงบประมาณได้มีการหารือกันแล้ว ก็น่าจะมีทางออกที่ชัดเจนว่าจะสามารถเดินไปทางไหนได้" นายกฤษฎา กล่าว
ส่วนข้อเสนอเรื่องการขยายเพดานการก่อหนี้ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานอื่น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 28 ที่กำหนดว่าภาระหนี้ในส่วนนี้รวมกันต้องไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายนั้น กระทรวงการคลังกับสำนักงบประมาณต้องหารือกันก่อนว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายนี้ แต่เมื่อปัจจุบันมีกฎหมายนี้ และมีการบังคับใช้แล้ว ก็จะต้องมีการพิจารณา และดูถึงความจำเป็น ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
"รัฐบาลได้กำชับให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เร่งหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด ซึ่งรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่ามีความตั้งใจดีที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรอยู่แล้ว" นายกฤษฎา กล่าว