ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงหลังจากอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4612 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4655 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 2.0434 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0563 ดอลลาร์ต่อปอนด์
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 110.39 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 111.57 เยนต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.1228 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1250 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ใน เดือนต.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์เช่นกัน
ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 20,000 ราย สู่ 339,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 10 พ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับเพียง 325,000 ราย
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นนี้ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอ่อนแอลงในขณะที่เศรษฐกิจได้รับแรงกดดันจากภาวะตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ นายไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์กกล่าวว่า "เรากำลังอยู่ในช่วงอ้าฟเตอร์ช็อกของวิกฤตการณ์สินเชื่อที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดการเงินจะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินต่างๆกันคึกคักขึ้น"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--