ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงชะลอตัวลงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.1087 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.1047 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 2.1117 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ขณะที่ยูโรทรงตัวที่ 1.4667 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.4703 ดอลลาร์ต่อยูโร ภายหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 4.0%
นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเราพร้อมที่จะควบคุมความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพราคา อย่างไรก็ตาม เรายอมรับว่าเศรษฐกิจยุโรปยังเผชิญความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน"
ส่วนแถลงการณ์ของเบอร์นันเก้ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก โดยเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมแห่งสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงเนื่องจากปัญหาหลายด้านที่รุมเร้า รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลง ซึ่งจะทำให้อัตราการขยายตัวในภาคธุรกิจอ่อนแอลงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.1268 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1321 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 112.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112.88 เยนต่อดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--