นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่จ.กระบี่ เพื่อตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน บริเวณจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของ จ.กระบี่ 2 จุด ได้แก่ ลานปูดำ และเกาะพีพี โดยมี บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ
ทั้งนี้ รัฐบาลโดย NT จะเข้ามาลงทุนติดตั้งและเดินสายเคเบิ้ลสื่อสารที่เชื่อมเข้าไปถึงบ้าน หรือจุดผู้ใช้งานปลายทาง และเปิดให้โอเปอเรเตอร์สื่อสารทุกรายเข้ามาเช่าใช้งาน ไม่ต้องไปลงทุนซ้ำซ้อน ไม่ต้องไปเดินสายสื่อสารใหม่ให้รกรุงรัง เพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้านทัศนียภาพของเมือง อีกทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะเป็นการเช่าใช้ร่วมในระบบเดียวกัน และมีแนวคิดการหาทางออกร่วมกับผู้ให้บริการสื่อสาร
ขณะที่กระทรวงดีอีเอส คงต้องวางกฎเกณฑ์ในเรื่องของการเดินสายสื่อสารให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้รกรุงรัง หรือในพื้นที่ซึ่งสามารถลากสายสื่อสารลงใต้ดินทั้งหมดได้อย่างเช่น เกาะพีพี ก็จะไม่ให้มีการพาดสายบนเสาไฟฟ้าให้รกสายตา
"ในส่วนของโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน จุดท่องเที่ยวเกาะพีพี ครอบคลุมระยะทาง 3 กม. ใช้งบประมาณราว 12 ล้านบาท หลังแล้วเสร็จจะช่วยปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองให้ดูสวยงาม และไม่มีสายไฟฟ้าหรือสายสื่อสาร รกรุงรังที่บดบังทัศนียภาพของสถานที่ท่องเที่ยว" นายชัยวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ จังหวัดกระบี่ เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล เป็น 1 ใน 4 จังหวัดพื้นที่สีฟ้าสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้เต็มพื้นที่ทั้งจังหวัด อีกทั้งมีการเชื่อมต่อกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ้นดามัน
ที่ผ่านมา กระบี่เป็นหมุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจากข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยวจังหวัดฯ พบว่าก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนกว่า 6 ล้านคนเมื่อปี 62 โดยเป็นสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศถึงกว่า 4 ล้านคน
ด้านข้อมูลของสำนักอุทยานแห่งชาติ ระบุว่า ในปีงบประมาณ 62 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของอุทยานแห่งชาติยอดนิยม โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 1 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 80% และในปี 62 จัดเก็บรายได้จากค่าบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติได้มากกว่า 374 ล้านบาท