นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ทำสูตรคำนวณราคาน้ำมันดีเซลที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าไว้แล้ว หลังจากที่น้ำมันดีเซลซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของต้นทุนการผลิตและการขนส่ง โดยได้ประเมินราคาสูงสุดไว้ที่ 31-31.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าที่กรมฯ ติดตามดูแลทั้ง 200 รายการ ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 0.0359-4.4290%
โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ปูนซีเมนต์ เพราะมีน้ำหนักการบรรทุกมาก และสินค้าที่กระทบน้อยที่สุดคือ รถยนต์
นางวัชรี กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลในปัจจุบันที่ปรับขึ้นเป็น 28.94 บาท/ลิตรนั้น มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าที่ 0.0204-2.5170% โดยสินค้าที่กระทบมากสุดคือ ปูนซีเมนต์ และกระทบน้อยสุดคือ รถยนต์เช่นกัน
ทั้งนี้ในแต่ละอุตสาหกรรมจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องจักรผลิตสินค้าและในการขนส่งเท่านั้น น้ำมันจึงเป็นต้นทุนการผลิตเล็กน้อย ขณะที่ราคาวัตถุดิบจะเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ในการผลิต ดังนั้นการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจึงทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นน้อยมาก
"ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ขอปรับขึ้นราคามายังกรมจะอ้างราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ส่วนเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นไม่ได้อ้างว่าทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเลย เพราะน้ำมันมีส่วนในต้นทุนน้อยมาก ดังนั้นผู้ผลิตไม่ควรอ้างปัจจัยราคาน้ำมันมาขอปรับขึ้นราคาสินค้าเด็ดขาด" นางวัชรีกล่าว
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้าเพิ่มเติม นอกจากรายเดิมที่ขอปรับขึ้นราคามาก่อนหน้านี้แล้วใน 13 สินค้า 588 รายการ ได้แก่ ยางรถยนต์, แบตเตอรี่, ปุ๋ยเคมี, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ยารักษาโรค, น้ำมันพืช, ผงซักฟอก, ยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน, น้ำอัดลม, ผลิตภัณฑ์นม (นมผง นมแปลงไขมัน นมเปรี้ยว), รถยนต์นั่ง, รถจักรยานยนต์ และรถบรรทุกเล็ก
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--