พาณิชย์ดักคอผู้ผลิตปิดช่องขอปรับขึ้นราคาสินค้าแม้ดีเซลพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2007 18:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ทำสูตรคำนวณราคาน้ำมันดีเซลที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าไว้แล้ว หลังจากที่น้ำมันดีเซลซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของต้นทุนการผลิตและการขนส่ง โดยได้ประเมินราคาสูงสุดไว้ที่ 31-31.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าที่กรมฯ ติดตามดูแลทั้ง 200 รายการ ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 0.0359-4.4290% 
โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ปูนซีเมนต์ เพราะมีน้ำหนักการบรรทุกมาก และสินค้าที่กระทบน้อยที่สุดคือ รถยนต์
นางวัชรี กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลในปัจจุบันที่ปรับขึ้นเป็น 28.94 บาท/ลิตรนั้น มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าที่ 0.0204-2.5170% โดยสินค้าที่กระทบมากสุดคือ ปูนซีเมนต์ และกระทบน้อยสุดคือ รถยนต์เช่นกัน
ทั้งนี้ในแต่ละอุตสาหกรรมจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องจักรผลิตสินค้าและในการขนส่งเท่านั้น น้ำมันจึงเป็นต้นทุนการผลิตเล็กน้อย ขณะที่ราคาวัตถุดิบจะเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ในการผลิต ดังนั้นการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจึงทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นน้อยมาก
"ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ขอปรับขึ้นราคามายังกรมจะอ้างราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ส่วนเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นไม่ได้อ้างว่าทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเลย เพราะน้ำมันมีส่วนในต้นทุนน้อยมาก ดังนั้นผู้ผลิตไม่ควรอ้างปัจจัยราคาน้ำมันมาขอปรับขึ้นราคาสินค้าเด็ดขาด" นางวัชรีกล่าว
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้าเพิ่มเติม นอกจากรายเดิมที่ขอปรับขึ้นราคามาก่อนหน้านี้แล้วใน 13 สินค้า 588 รายการ ได้แก่ ยางรถยนต์, แบตเตอรี่, ปุ๋ยเคมี, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ยารักษาโรค, น้ำมันพืช, ผงซักฟอก, ยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน, น้ำอัดลม, ผลิตภัณฑ์นม (นมผง นมแปลงไขมัน นมเปรี้ยว), รถยนต์นั่ง, รถจักรยานยนต์ และรถบรรทุกเล็ก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ