นายนอร์ โมฮัมเหม็ด ยัคค็อพ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนที่ 2 ของมาเลเซียกล่าวว่า มาเลเซียยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2550 ที่ระดับ 6% ได้ เนื่องจากความหลากหลายทางธุรกิจในประเทศจะเป็นปัจจัยที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น แต่หากปัญหาราคาน้ำมันยังคงยืดเยื้อต่อไปเช่นนี้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคตได้
"เป็นที่ทราบว่าความผันผวนและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวนั้นไม่ใช่เรื่องดีต่อเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน" เขากล่าว
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ราคาก็ลดลงต่ำกว่าระดับ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ได้ออกมากล่าวว่า อาจพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มผลผลิตน้ำมัน หากถึงคราวจำเป็น
"โดยปกติแล้วหากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการรับมือกับภาวะวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วนั้น เราคิดว่ามาเลเซียสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลมากนัก แต่ผมเชื่อว่าความผันผวนและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอาจจะไม่ยืดเยื้ออย่างที่เราคิดก็ได้" นายนอร์ โมฮัมเหม็ดกล่าว
GDP ของมาเลเซียในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.6% โดยธนาคารกลางมาเลเซียมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสที่ 3 ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--