กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของฮ่องกงในปี 2551 อาจชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป
ไอเอ็มเอฟกล่าวในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฮ่องกงอาจขยายตัวต่ำกว่า 5% ในปีหน้า ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับคาดการณ์ในปีนี้ที่ 5.5-6%
ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สหรัฐและยุโรปรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจะส่งผลต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้น และสร้างความผันผวนในตลาดเงินทั่วโลกทันที หากผลกระทบของวิกฤตซับไพรม์ขยายวงกว้างมากขึ้น
เศรษฐกิจภายในประเทศในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.1% จากระดับในปีที่ผ่านมา และรัฐบาลเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 6% ตลอดทั้งปี โดยในไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.2% ต่อปี ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศและภาคการส่งออก
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานโดยอ้างข้อมูลจากรัฐบาลฮ่องกงที่ระบุว่า การส่งออกขยายตัวขึ้น 6.4% ในไตรมาสที่สาม จากยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนและกลุ่มสมาชิกอียู 13 ประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า ในระยะกลางฮ่องกงจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยที่ 5% ต่อปี ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจาการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่ง และจากการรวมกลุ่มสถาบันการเงินกับจีน
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟกล่าวด้วยว่า การรวมกลุ่มองค์กรทางการเงินระหว่างฮ่องกงกับจีนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากแผนการดังกล่าวจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น รวมถึงการขยายโครงการนักลงทุนสถาบันที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (QDII) ที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง และแผนการของรัฐบาลจีนที่อนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นในฮ่องกงได้โดยตรง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--