นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้าทั่วประเทศและเครือข่าย จัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ในวันที่ 20-21 พ.ย.64 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้หัวข้อ "Connect the Dots: Design the Future รวมพลัง...สร้างสรรค์อนาคต" โดยจะเป็นการรวมพลังกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า และมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน มีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยกันออกแบบภาพอนาคตของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน
การสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการหารือกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เพื่อให้เป็นงานตัวอย่าง หลังการผ่อนคลายการเปิดประเทศ ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมแล้วกว่า 1,000 ราย ประกอบด้วย คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้สมาชิกและประชาชนทั่วไปได้เข้าฟังการบรรยายของรัฐมนตรีท่านต่างๆ สดไปพร้อมกัน ผ่าน facebook live ได้ที่ เพจ Thaichamber
การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีหลายท่านมาร่วมปาฐกถาพิเศษ อาทิ การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทาย (BCG และ พลังงาน) โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, การเชื่อมโยงธุรกิจไทยกับต่างประเทศด้วยแนวทางการค้ายุคใหม่ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, ประเทศไทยกับการฟื้นตัวหลังโควิด?19 โดยนายอาคม เติมพิทนาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นต้น ซึ่งทุกหัวข้อในการสัมมนา ผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้ทราบ Highlight ที่สำคัญๆ รวมไปถึงการ Design The Future ที่จะเป็นการออกแบบอนาคตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
"หอการค้าไทยหวังว่าผลที่ได้จากการสัมมนานี้จะเป็นแรงที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นตัวจุดประกายให้กับทุกภาคส่วนได้มีส่วนในการสร้างความร่วมมือให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ทั้งในด้านสินค้าและการบริการ เกิดการกระจายรายได้ และยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นในทุกจังหวัด ได้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ จะเห็นว่าการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมมากขึ้นเป็นลำดับ" นายสนั่น กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายและโอกาสอีกมากที่รอเราอยู่ในปีหน้า เนื่องจากบริบทของโลกหลายอย่างได้เปลี่ยนไปจากเดิม อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี แนวโน้มของโลกที่ให้ความสำคัญกับ BCG (Bio Circular Green) ขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาสที่สำคัญ เช่น การเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า การเชื่อมรถไฟลาว-จีน ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการขยายการค้าไปสู่ระดับสากลได้มากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ "ต้องร่วมมือกัน" เพื่อให้เกิดความพร้อม สำหรับโอกาสที่กำลังจะกลับมา
การสัมมนาครั้งนี้จะมีการระดมสมองและจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยรวบรวมเป็นสมุดปกขาวเสนอให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมารับสมุดปกขาวด้วยตนเองในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "จับมือ รวมใจ พาไทยรอด" ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมต่อไป