ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ทิม กอร์ดอน นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ตลาดมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค." ซึ่งตัวเขาเองคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.4717 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4676 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ ขณะที่เงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.4738 ดอลลาร์ต่อยูโรในก่อนหน้านี้
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยเคลื่อนไหวแตะระดับ 112.71 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112.66 เยนต่อดอลลาร์ในช่วเช้า
อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงอัตราดอกเบี้ยในอนาคตในแถลงการณ์ที่มีต่อสภาคองเกรส แต่เขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง โดยเขากล่าวว่า เฟดจะดำเนินการเท่าที่จำเป็น ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.75% เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาในตลาดเงินและช่วยกระตุ้นในเศรษฐกิจสหรัฐรอดพ้นจากภาวะถดถอย
ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยได้ช่วยบรรเทาความรุนแรงในปัญหาสินเชื่อได้ในบางบริบท แต่อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนพากันกระหน่ำเทขายสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออกมาเป็นจำนวนมาก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--