นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบตู้สินค้าด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ ณ ศูนย์เอ็กซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ว่า ได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้เร่งตรวจสอบตู้สินค้าส่งออกที่ผิดกฎหมาย จากกรณีที่มีการส่งไม้ผ่านประเทศไทยไปยังไต้หวัน และได้ตรวจพบว่ามีเฮโรอีนในตู้สินค้าดังกล่าว ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง
ทั้งนี้ จากการหารือกับกรมศุลกากร พบว่า แม้กรมศุลกากรจะได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานแล้ว แต่ยังมีความผิดพลาดในขั้นตอนการเอ็กซเรย์ตู้สินค้า ซึ่งตรวจไม่พบสินค้าผิดกฎหมาย เนื่องจากมีการสำแดงว่ามีการขนไม้ จำนวน 2 พันแผ่น แต่กลับมีการแอบยัดเฮโรอีน จำนวน 100 แผ่น ซึ่งการเอ็กซเรย์สินค้าเป็นแบบทึบแสง ทำให้ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จนมีการตรวจปล่อยตู้สินค้าดังกล่าวออกไป
รมช.คลัง ยอมรับว่าประเทศไทยมีความล่อแหลมที่จะถูกใช้เป็นทางผ่านในการขนส่งสินค้าผิดกฎหมายออกไป นายกรัฐมนตรีจึงกำชับให้ดูแลอย่างละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งออกทั้งหมด และให้ดูว่ามีจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องในส่วนใด เพราะผู้ลักลอบกระทำผิดจะมีการศึกษาขั้นตอนการตรวจสอบของกรมศุลกากร เพื่อหาวิธีการหลบเลี่ยงได้ตลอด
"ได้แนะนำกรมศุลกากรว่า ในกรณีที่เอ็กซเรย์ตู้สินค้าด้วยตาแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก็อาจจะต้องมีการตั้งทีมพิเศษขึ้นมา โดยใช้ทีมสุนัขตำรวจ K9 เข้ามาติดตามดมกลิ่น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่นานาประเทศใช้ ขณะเดียวกัน ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลสินค้าส่งออกที่ผ่านไทยให้ละเอียดมากขึ้น ผู้ส่งออกต้องสำแดงรายการสินค้า และจำนวนให้ชัดเจน แต่ก็ต้องดูแลไม่ให้กระบวนการผ่านสินค้าจากประเทศไทยเพื่อส่งออกล่าช้า" รมช.คลัง ระบุ
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้ กรมศุลกากรจะปรับเพิ่มเกณฑ์ความเสี่ยงในการคัดกรองสินค้าส่งออกให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ก็จะรักษามาตรฐานระยะเวลาการตรวจปล่อยให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ส่งออก จากปัจจุบันที่ใช้วิธีการตรวจสอบโปรไฟล์รายการสินค้าที่เข้มงวดอยู่แล้ว