นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.71/74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.73 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะค่อนข้างทรงตัว ไม่เคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากตลาดรอติดตามดูปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะ สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน รวมทั้งรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เดือน พ.ย.
ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่จะส่งผลต่อทิศทางของค่าเงินในช่วงนี้ มาจาก inflow-outflow เป็นหลัก รวมถึงต้องติดตาม สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนด้วยเช่นกัน
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.65 - 33.80 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (1 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.10386% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.25525%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.00/06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 113.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3280/85 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1324 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.703 บาท/ดอลลาร์
- รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ข้าวไทยแข่งขันได้กับคู่แข่ง โดย
ราคาข้าวขาวความชื้นไม่เกิน 15% ราคาปรับตัวดีขึ้นไปอยู่ที่ 8,800 บาท/ตัน จากก่อนหน้านี้ไม่ถึง 6,000 บาท/ตัน ดูจากยอดส่งออกเริ่ม
กระเตื้องอยู่ที่ 700,000-800,000 ตัน/เดือน จากก่อนหน้าอยู่ที่ 400,000-500,000 ตัน/เดือน ดังนั้น ปีนี้ไทยอาจจะส่งออกข้าวได้ 6
ล้านตันตามเป้า
- เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เปิด
เผยถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า สศช.ได้จัดทำรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงาน และการใช้จ่าย
เงินกู้ของแผนหรือโครงการต่างๆ ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบแล้ว โดยพบว่าตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-31 ต.ค.ที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติการ
ใช้จ่ายเงินกู้ไปแล้ว 23 โครงการ กรอบวงเงินรวม 237,681 ล้านบาท คิดเป็น 47.54% ของกรอบวงเงินกู้ทั้งหมด โดยสำนักบริหารหนี้
สาธารณะ (สบน.) ได้ดำเนินการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติมมาให้แล้ว 144,166.35 ล้านบาท คิดเป็น 28.38% ของกรอบเงิน
กู้ทั้งหมด
- ธปท.เตือนไม่สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลในการชำระค่าสินค้าและบริการ เร่งหารือ ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรูปแบบ
การกำกับดูแลการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล
- โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ สั่งเฝ้าระวังไม่ให้เชื้อ "โอมิครอน" เข้าประเทศ สกัดการลักลอบทุกช่องทาง เผยไม่พบสัญญาณ
ชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ศบค.ขอผู้เดินทาง 8 ประเทศเสี่ยงรวม 252 คน รายงานตัว-ตรวจ RT-PCR เร็วที่สุด ขณะที่ยอดผู้ที่
เดินทางเข้าไทยสะสม 133,061 คน ติดเชื้อ 171 คน
- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น
534,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 506,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 570,000 ตำแหน่งในเดือน
ต.ค.
- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 61.1 ในเดือนพ.
ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 61.0 จากระดับ 60.8 ในเดือนต.ค.
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในสหรัฐ
เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ และได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟด กำลังจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่เฟดจะใช้
เครื่องมือเพื่อสร้างความสมดุลต่อเป้าหมาย 2 ประการของเฟด ซึ่งได้แก่ การทำให้สหรัฐมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และสร้าง
เสถียรภาพด้านราคา
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ธ.
ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังสหรัฐยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดัง
กล่าวในประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
การระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นปัจจัยหนุนนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.