นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ประชุมครั้งที่ 3) โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานผลการดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ว่า มีการก่อสร้างเร็วกว่าแผนงาน จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1.โครงการฯ ช่วงลพบุรี ? ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง 62.46% 2.โครงการฯ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง 93.99 % และ 3.โครงการฯ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง 90.11 %
ส่วนงานก่อสร้างที่ล่าช้ากว่าแผน มี 6 สัญญา ได้แก่ 1. ช่วงลพบุรี ? ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง 69.88 % 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง 92.10 % 3. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 มีผลงานการก่อสร้าง 88.82 % 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานการก่อสร้าง 99.94 % 5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง 82.82 % 6.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง 82.35 %
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้กำชับให้รฟท. กำกับดูแลให้ผู้รับจ้าง เร่งรัดการก่อสร้าง สัญญาที่มีผลการก่อสร้าง ล่าช้ากว่าแผนงาน ให้มีผลการก่อสร้างเป็นไปตามแผนงาน โดยเร็ว
นอกจากนี้ ให้ รฟท. เร่งรัดการนำเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟทางคู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ให้มีความสมบูรณ์ และสามารถเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์กับ สปป. ลาว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย ให้ รฟท. เร่งรัดการเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีตามแผนงานที่กำหนดไว้ และเมื่อคณะกรรมการ รฟท. พิจารณาเรื่องโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงขอนแก่น ? หนองคายแล้ว ให้ รฟท. ทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบการดำเนินงานและประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับประสบการณ์ที่มีปัญหาในอดีตมาปรับปรุง ให้การนำเสนอโครงการเกิดความสมบูรณ์
นอกจากนี้ ให้ รฟท. รวบรวมข้อมูลปริมาณการขนส่งสินค้าจากการเปิดให้บริการรถไฟลาว - จีน ว่ามีผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้าภายในประเทศอย่างไร และเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนประเด็นปัญหาการขาดแคลนแรงงานก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้าง ของ รฟท. ให้ รฟท. ประสานขอข้อมูลแรงงานในระบบฐานข้อมูลของกระทรวงแรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว สำหรับการแก้ไขปัญหาการก้อสร้างบริเวณสะพานสีมาธานี นั้นให้ รฟท. จัดทำทางเลือกในการดำเนินโครงการให้ครบถ้วน สำหรับนำไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เช่น ทางเลือกในการอ้อมเมืองตามแนวคิดของ MR-MAP และพัฒนาระบบเชื่อมต่อการเดินทางให้ครบถ้วน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับการพัฒนาในอนาคต โดยเฉพาะส่วนที่ผ่านตัวเมืองใหญ่ ให้ รฟท. ออกแบบด้วยความรอบคอบ โดยให้นำนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาพื้นที่ใหม่ ประกอบการพิจารณาด้วย
ส่วนปัญหามีการขโมยอุปกรณ์ระบบอาณัติสัญญาณ (Signalling)โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้นให้ รฟท. ศึกษาแนวทางของ กรมทางหลวง ทล. ในการป้องกันการขโมยอุปกรณ์ทางหลวง
ส่วนกรณี สถานการณ์เพดานหนี้สาธารณะของประเทศ ขอให้ รฟท. ศึกษาแนวทางอื่นๆ ที่เหมาะสมกับการดำเนินโครงการของ รฟท. เพื่อลดภาระการพึ่งพางบประมาณของประเทศ เช่น การทำ PPP หรือการศึกษาแนวทางการทำ TFF ของ กทพ. เพื่อให้สามารถแปลงแผนงานไปสู่การปฏิบัติจริงได้
อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาโครงการรถไฟสายใหม่ ให้ รฟท. ตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนว่ามีปัญหาในส่วนใดหรือไม่ โดยจัดทำเป็น Checklist หากมีปัญหาอุปสรรค ให้ดำเนินการแก้ไขตามขั้นตอนทันที