สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนและอินเดียที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจะทำให้พลังงานสำรองของโลกลดลงอย่างรวดเร็ว หากรัฐบาลของทั้งสองประเทศไม่พยายามควบคุมการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
IEA เปิดเผยว่า ภายในปี 2573 ทั้งสองประเทศจะใช้พลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 45% ในขณะที่ทั่วโลกจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปัจจุบัน และคาดว่าในปีนี้จีนจะแซงหน้าสหรัฐในฐานะประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก ซึ่งเร็วกว่าการคาดการณ์เมื่อปีที่แล้วอยู่ 3 ปี ส่วนอินเดียจะเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดเป็นอันดับสามของโลกในปี 2558
อย่างไรก็ตาม นายโนบุโอะ ทานากะ ผู้อำนวยการบริหาร IEA กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนและอินเดียที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนกว่า 2 พันล้านคน และควรได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก
IEA ยังกล่าวเตือนว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงขึ้นอย่างมากภายในปี 2558 เนื่องจากอุปสงค์ที่มีมากกว่าอุปทาน และเนื่องจากผลผลิตน้ำมันจากประเทศตะวันออกกลางลดลงมาก
ทั้งนี้ คาดว่าราคานำเข้าน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้นแตะระดับ 108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลภายในปี 2573 ซึ่งคาดว่าตอนนั้นทั่วโลกจะมีความต้องการน้ำมันถึง 116 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับความต้องการน้ำมันที่มีเพียง 84 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวานราคาน้ำมันดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เหนือ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--