นายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ กล่าวว่า บริษัทมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าผ่านทางโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์เป็น 55 บาทตลอดสาย โดยจะจัดเก็บค่าผ่านทางบริเวณด่านดินแดงอัตรา 35 บาท และที่ด่านอนุสรณ์สถานอีก 20 บาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตรา 30 บาทตลอดสาย โดยมีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 21 ธ.ค.นี้
หลังปรับขึ้นค่าผ่านทางแล้วบริษัทคาดว่า จะส่งผลให้ปริมาณการจราจรลดลงประมาณ 15% หรือมีปริมาณจราจรวันละประมาณ 85,000 คัน จากเดิมที่มีปริมาณจราจรวันละ 100,000 คัน แต่รายได้จะเพิ่มขึ้นราว 40%
"ปริมาณจราจรเราจะลดลง 15% แต่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 40% เป็นวันละ 4.2 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายได้วันละประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดภาระการขาดทุนได้ แต่ยังไม่สามารถทำกำไรได้ โดยคาดว่าจะเริ่มคุ้มทุนในอีก 12 ปี หรือประมาณปี 2562" นายสมบัติ กล่าว
สำหรับอัตราค่าผ่านทางครั้งนี้บริษัทจะใช้ไปอีก 3 ปี โดยระหว่างนี้ถึงปี 2553 จะไม่มีการปรับค่าผ่านทาง แต่หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา และเป็นแผนงานตามการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงกับกรมทางหลวง ซึ่งบริษัทได้ปรับลดค่าผ่านทางมาเป็นเวลา 3 ปี และมีการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีกประมาณ 11 ปี
ด้านนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องการขอปรับขึ้นค่าผ่านทางโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเรื่องนี้คงเป็นการดำเนินงานตามสัญญา ส่วนรัฐบาลจะขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าวในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือไม่นั้นคงต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/เสาวลักษณ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--