นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า หากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นไม่ลดลง กระทรวงพลังงานจะพิจารณาปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีกครั้ง โดยให้ความสำคัญกับน้ำมันไบโอดีเซล(บี5) และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ แต่ถ้าราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีที่ท่าว่าจะลดลง ทางกระทรวงพลังงานคงต้องปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ ด้วย เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยภาครัฐจะขอรอดูราคาน้ำมันอีกสักระยะหนึ่งก่อน
"หากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ กระทรวงพลังงานจะประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทันที" นายปิยสวัสดิ์ ระบุในเอกสารเผยแพร่
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกในช่วงนี้ยังปรับตัวสูงขึ้นอีกและมีความผันผวนสูง โดยวันพุธที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบได้สูงขึ้นถึง 2.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ในระดับ 88.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันเบนซิน 95 และดีเซลหมุนเร็วในตลาดสิงคโปร์ ได้ปรับตัวสูงอีก 2.5 และ 3.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ในระดับ 102 และ 108 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจเห็นราคาน้ำมันดิบที่ทะลุเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยด้านการจัดหาเป็นหลัก โดยแม้ว่าพายุจะพัดผ่านอ่าวเม็กซิโกไปแล้ว แต่การขุดเจาะรวมถึงการกลั่นน้ำมันในบริเวณนี้ยังไม่สามารถกลับมาผลิตได้เต็มที่ สภาพอากาศที่แปรปรวนในทะเลเหนือทำให้บริษัท โคนอโค ต้องหยุดการผลิตลงส่วนหนึ่ง, การปิดลงของท่อส่งน้ำมันที่ถูกลอบวางระเบิดในประเทศเยเมน กระทบการส่งออกน้ำมัน 155,000 บาร์เรลต่อวัน ที่ออกสู่ทะเลแดง นอกจากนั้นปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐได้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ และความเสี่ยงของการเกิดสงครามระหว่างตุรกีกับกลุ่มกบฎเคิร์ก ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวอย่างต่อเนื่องที่ทำให้ Hedge Funds เพิ่มการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า ได้เสริมให้ราคาน้ำมันยิ่งสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--