พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติให้จัดงานเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ การสวดมนต์ข้ามปี และมาตรการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ แต่ต้องยึดมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด และเร่งให้ประชาชนไปรับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอีกภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยยังมีเวลาฉีดได้ถึงวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เพราะระยะเวลาจัดงานปีใหม่อยู่ในช่วง 27-31 ธ.ค.นี้ หากใครยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ขอให้เร่งฉีดโดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม โดยได้สั่งการไปแล้วให้เตรียมพร้อมฉีดวัคซีน หากใครจะไปท่องเที่ยวที่มีการจัดงานคนจำนวนมากต้องมีมาตรฐานหลายอย่าง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ถึงการปรับมาตรการการป้องกันควบคุมโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ทางศบค.มีมติอนุญาตให้มีการบริโภคสุราได้ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 และวันที่ 1 ม.ค. 65 สามารถเปิดบริการ และบริโภคสุราได้ไม่เกินเวลา 01.00 น. เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้นทั้งนี้ ให้เคร่งครัดตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค ที่สาธารณสุขกำหนด (COVID Free Setting)
"ก็คือวันเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อันนี้เป็นนัยยะ เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดประเทศ ให้เห็นภาพของการเคาท์ดาวน์"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
สำหรับมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ กรณีมีผู้ร่วมงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป
- ผู้จัดงาน พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มและต้องมีการตรวจ ATK ก่อนเข้างาน 72 ชั่วโมง
- ส่วนลูกค้าต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และต้องงานในพื้นที่ควบคุมการเข้าออกได้ (พื้นที่ปิด) และในพื้นที่โล่งแจ้งเท่านั้น
อีกทั้งต้องจัดการไม่ให้เกิดความแออัดในการจัดงาน โดยดำเนินการจัดให้มีการจองตั๋วล่วงหน้า หรือลงทะเบียนล่วงหน้า ก่อนถึงวันจัดงาน กำหนดช่องทางเข้า-ออกจากงาน จุดเดียว และมีระบบคิวให้สามารถควบคุมได้ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 1 คนต่อ 4 ตารางเมตรและติดป้ายแสดงจำนวนผู้ใช้บริการให้เห็นชัดเจน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้อำนวยการ ศบค.เน้นย้ำ ให้หน่วยงานภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบร่วมกันด้วย และประชาชนที่อยากจะเข้าร่วมงานก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ (อย่างน้อย 2 เข็ม) ก่อน
สำหรับมาตรการท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่ สำหรับจัดงานใน 5 พื้นที่หลัก ที่เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต ระยอง อยุธยา และในพื้นที่อื่นๆอีก 44 จังหวัด ซึ่งได้มีการกำหนดการจัดงานในช่วง 27 ธ.ค.-31 ธ.ค. 64 โดยแบ่งช่วงเวลาจัดงาน ดังนี้
- วันที่ 27 ธ.ค.-30 ธ.ค. 64 ช่วงเวลา 16.00-22.00 น.
- วันที่ 31 ธ.ค. 64 ช่วงเวลา 16.00-00.30 น.
ส่วนร้านอาหารพื้นถิ่นไม่อนุญาตให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร สืบเนื่องจากพบการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน และบางประเทศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ในส่วนของการพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและการเข้ากักตัว กรณีได้รับการวัคซีนยังคงระยะเวลากักตัว 7 วัน และยังคงใช้การตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ทุกกรณี และเพิ่มช่องทางทางบกนำร่องที่ด่านหนองคายในวันที่ 24 ธ.ค.64 ส่วนจังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างเตรียมการ
นอกจากนี้ ยังปรับกลุ่มประเภทผู้เดินทาง 6 กลุ่ม และกลุ่มประเทศ 4 กลุ่ม ดังนี้ รูปแบบและเงื่อนไขการเดินทาง 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.Test&Go 2.Sandbox 3.กักตัว 4.ผู้ขนส่งสินค้า ทางบก/เรือ 5.ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ 6.ผู้มีเหตุยกเว้น หรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ
และประเทศต้นทาง 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มประเทศ Test&Go จำนวน 63 ประเทศ และพื้นที่ 2.กลุ่มทุกประเทศ 3.กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ มาจากประเทศในทวีปแอฟริกาไม่รวม 8 ประเทศ หรือ เคยพำนักในช่วง 21 วันก่อนเดินทาง และ 4. กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง
ศบค.เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยไม่มีการกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (แดงเข้ม)และพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) แล้ว แต่ปรับ ส่วนพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 23 จังหวัด ปรับเป็น 39 จังหวัด
ขณะที่พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิม 24 จังหวัด ปรับเป็น 30 จังหวัด ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จากเดิม 7 จังหวัด ปรับเป็น 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงาและภูเก็ต ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.นี้