ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.37/40 ทรงตัวจากช่วงเช้า ตลาดรอปัจจัยใหม่ จับตาผลประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 14, 2021 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 33.37/40 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 33.40 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างนิ่ง เช่นเดียวกับภูมิภาค โดยยังไร้ปัจจัยใหม่ เนื่องจากตลาดรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่ 33.37 - 33.45 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทของวันพรุ่งนี้ว่า น่าจะยังอยู่ในกรอบนิ่งๆ เนื่องจากคืนนี้มีการประชุม เฟดวันแรก โดยให้ไว้ที่ 33.30 - 33.50 บาท/ดอลลาร์ ส่วนคืนนี้ยังไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.55/60 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 113.64 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1295/1.1300 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1273 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,630.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 69,163 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,716.97 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี
65 เป็น 3.9% จากเดิมที่คาดไว้ 3.6% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากปี 64 ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 1% ก่อนที่ปี 66 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น
4.3% ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
  • ครม. มีมติเห็นชอบเป้าหมายนโยบายการเงิน (กรอบเงินเฟ้อ) ประจำปี 65 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในอัตรา 1-
3% ถือเป็นระดับที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่ม
ความยืดหยุ่นของนโยบายการเงินให้สามารถรองรับกับความผันผวนของเงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
  • นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีภาคเอกชนเสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท เพื่อ
นำมากระตุ้นเศรษฐกิจว่า ในขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องกู้เพิ่ม เพราะสิ่งที่ได้ดำเนินการอยู่น่าจะเพียงพอ ยกเว้นจะมีเรื่องที่จำ
เป็นจริงๆ ถึงจะมีการพิจารณา
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินรายเดือนในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดวงเงิน QE
ลง 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า จากปัจจุบันที่ปรับลด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในปี 2565
  • นักวิเคราะห์จากธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์ (UOB) คาดการณ์ว่า การยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อน
คลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด ไม่มีแนวโน้มที่จะสร้างความผันผวนในตลาดเอเชีย
  • รมว.คลัง และผู้ว่าธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G7 ได้ให้คำมั่นว่าจะเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และจะทำ
งานร่วมกันในประเด็นห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน โดยเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันแก้
ปัญหาภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเร่งให้เกิดเงินเฟ้อทั่วโลก และอาจสกัดกั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคระ
บาด
  • อัตราการว่างงานในอังกฤษช่วง ส.ค.-ต.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.2% จาก 4.3% ในช่วงเวลา 3 เดือน สอดคล้องกับ
การคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสามารถรับมือกับการสิ้นสุดของโครงการช่วยเหลือแรง
งาน ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตัดสินใจปรับขึ้นต้นทุนการกู้ยืมในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 16 ธ.
ค.
  • โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า ฝรั่งเศสยังไม่ได้วางแผนที่จะออกมาตรการจำกัดเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการ
ระบาดของโควิด-19 ระลอกปัจจุบัน แม้เผชิญความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ