ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย ระบุในปี 51 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงจากหลายเรื่อง แม้จะมีปัจจัยหนุนให้เกิดการขยายตัว ทั้งแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่สูงขึ้น และแนวโน้มการส่งออกไปยังจีนและญี่ปุ่นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
"ผู้ประกอบการควรเร่งปรับตัวด้วยการขยายการผลิตให้สามารถผลิตให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อวัตถุดิบที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตในสัดส่วนที่สูงมากกว่าร้อยละ 70 และยังเป็นการลดความเสี่ยงแก่ผู้ประกอบการในแต่ละช่วงเวลาด้วยการเคลื่อนย้ายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์อื่นที่มีแนวโน้มราคาที่ดีกว่าได้" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมสิ่งทอ ชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงปุ๋ยในอุตสาหกรรมเกษตร โดยอุตสาหกรรมนี้เจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องตั้งแต่ปี 47 ถึงช่วงกลางปี 49 และเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ปลายปี 49 เป็นต้นมา
ปัจจัยเสี่ยงคือความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และการแข่งขันที่สูงขึ้นเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตของแต่ละประเทศ รวมถึงปัญหาเงินบาทแข็งค่า
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--