นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ สำรวจผลิตและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ปตท.จะเร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประเทศในอนาคต ซึ่งจะมีแผนที่จะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) จากประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าราคาก๊าซธรรมชาติมีโอกาสที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ว่าคงมีผลกระทบไม่มากนัก เพราะราคาก๊าซธรรมชาติอ้างอิงราคาน้ำมันเพียง 30% และเชื่อว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นจะไม่กระทบมากไม่กระทบค่าไฟฟ้า เพราะในปีหน้าจะก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอาทิตย์จำนวน 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เข้ามาในเดือน ก.พ.-มี.ค. และก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง JDA จำนวน 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และขยายเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือน มี.ค.-เม.ย. โดยจะจัดส่งให้โรงไฟฟ้าสงขลาและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งทำให้ราคาไฟฟ้าไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะจะใช้ก๊าซธรรมชาติแทนน้ำมันเตาทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลง
สำหรับการใช้ก๊าซธรรมชาติ(NGV)ในภาคขนส่งคาดว่าในปีหน้าจะมีประชาชนหันมาใช้เพิ่มขึ้น เพราะเริ่มมีความมั่นใจ เนื่องจากหลายประเทศเริ่มใช้กันแพร่หลาย โดย ปตท.ยืนยันจะตรึงราคาจำหน่ายก๊าซ NGV ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาทต่อไปจนถึงสิ้นปี 2551 ส่วนหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ต้องดูต้นทุนก่อน
ก่อนหน้านี้ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน ระบุว่า ได้มีการเข้าไปเจรจาร่วมทุนและซื้อขายก๊าซทางท่อจากแหล่งนาทูน่าในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของภูมิภาค ตลอดจนการสร้างความชัดเจนในการนำเข้า LNG จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--