ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.61/63 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค จากกังวลโควิดโอมิครอนระบาดหนัก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 20, 2021 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 33.61/63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้า อยู่ที่ระดับ 33.42 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทปิดอ่อนค่า เช่นเดียวกับภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่แข็งค่า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.40/42 - 33.61/63 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยระยะสั้นจากในประเทศ คือ ตลาดมีความกังวลเรื่องโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่ล่าสุดพบผู้ ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นเป็น 63 ราย ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลว่ารัฐบาลอาจมีมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการล็อกดาวน์

ช่วงนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ความรุนแรงของการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในฝั่งยุโรป ที่พบการติดเชื้อโอมิครอนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับรัฐบาลของหลายประเทศเริ่มมีมาตรการที่เข้มงวดมาก ขี้น

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.50 - 33.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.50/54 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 113.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1249/53 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1242 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,615.80 จุด ลดลง 25.93 จุด (-1.58%) มูลค่าการซื้อขาย 82,358 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,943.26 ลบ.(SET+MAI)
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน พ.ย.64 พบว่า การส่งออกขยายตัวได้ 24.7%
มูลค่า 23,647.9 ล้านเหรียญสหรัฐ การนำเข้า ขยายตัว 20.5% มูลค่า 22,629.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลการค้า 1,018.7 ล้าน
เหรียญสหรัฐ โดยสาเหตุที่ทำให้การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง มาจากการส่งเสริมการส่งออกของภาครัฐ เศรษฐกิจโลกฟื้น
ตัว การขยายตัวภาคการผลิตทั่วโลก เงินบาทอ่อนค่า และการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก พร้อมคาดทั้งปีนี้ การส่งออกจะขยาย
ตัวได้ 15-16%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ประชาชนจะมีความต้องการใช้ธนบัตรเพิ่มขึ้น
กว่าปกติ โดยประเมินว่า ธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.เพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการประชาชนเป็นมูลค่าประมาณ
120,000 ล้านบาท ซึ่ง ธปท.ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอแล้ว
  • รมว.สาธารณสุข เผยเตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go ไปก่อน คงเหลือ
เฉพาะรูปแบบ Sandbox และมาตรการการกักตัว เนื่องจากขณะนี้พบการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่ม โดยล่าสุดตรวจพบผู้ติด
เชื้อโอมิครอนตั้งแต่ช่วงที่เริ่มมีการระบาดแล้ว 63 ราย และรอการยืนยันอีกกว่า 20 ราย
  • กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ล่าสุด ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2564 สามารถฉีดวัคซีนได้
บรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดสแล้ว โดยมียอดการฉีดวัคซีนสะสมอยู่ที่ 100,054,961 โดส ครอบคลุมประชากรตามทะเบียนราษฎร์ และ
ประชากรแฝง
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบให้การ
ส่งเสริมโครงการขนาดใหญ่ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 26,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความพร้อมด้านพลังงาน พร้อมยกระดับขีดความสามารถ
การแข่งขันของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
  • นายกรัฐมนตรี สั่งดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยให้กระทรวง
สาธารณสุข (สธ.) พิจารณาเพิ่มมาตรการที่เข้มขึ้นมากขึ้นสำหรับมาตรการเปิดรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง สกัดการเข้ามาของ
ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันก็ไม่ให้กระทบมาตรการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมในปี 2565
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกประจำบริษัท BOC International และอดีตหัวหน้าแผนกดุลการชำระเงินในสังกัด
สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ได้ออกมาเตือนว่า จีนควรเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เงินหยวนที่ยังคงอ่อนค่าลง
จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อไม่นานมานี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงสร้างความผิดหวังต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
  • รัฐสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติงบเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2564 อีก 36 ล้านล้านเยน (3.17 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงเป็น
ประวัติการณ์ หลังได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้จะเพิ่ม
ภาระหนี้ให้แก่ญี่ปุ่นมากขึ้น
  • ข้อมูลจาก Dealogic ณ วันที่ 16 ธ.ค. ระบุว่า มูลค่าการควบรวมกิจการทั่วโลกพุ่งแตะที่ 5 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้ง

แรกในประวัติศาสตร์ โดยปริมาณการทำสัญญาควบรวมกิจการเพิ่มขึ้น 63% แตะที่ 5.63 ล้านล้านดอลลาร์ ทุบทำลายสถิติเดิมในช่วงก่อน

เกิดวิกฤตทางการเงินที่ 4.42 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2550


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ