นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 51 จะเติบโตได้ 5% เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยอื่นๆ ที่จะเข้ามาส่งผลกระทบมาก โดยเชื่อว่าทั้งการบริโภคและการลงทุนในปีหน้าจะเริ่มขยายตัวได้ดีขึ้น
ส่วน GDP ในปีนี้ที่แม้กระทรวงการคลังจะมองว่าอาจเติบโตไม่ถึง 4.5% นั้น แต่ยังถือว่าอยู่ในกรอบที่รัฐบาลเคยประเมินไว้ว่าจะเติบโตได้ในช่วง 4.0-4.5% ซึ่งปัญหาราคาน้ำมันในขณะนี้ยังต้องตามใกล้ชิดเป็นการปรับขึ้นอย่างชั่วคราวหรือถาวร เพราะพื้นฐานราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นนั้นเป็นความผันผวนที่ผิดปกติเกิดจากปัจจัยต่างๆ แต่ไม่ใช่การปรับสูงขึ้นจากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นหรือการลดกำลังการผลิต
นายโฆสิต กล่าวว่า รัฐบาลมีเครื่องมือในการรองรับที่เพียงพอจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ และหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติรัฐบาลก็พร้อมจะนำมาตรการจำเป็นออกมาใช้ คือ การลดการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แต่ส่วนมาตรการอื่น ๆ คงไม่สามารถนำมาใช้ได้ในตอนนี้เพราะถือว่าผิดมารยาทการทำหน้าที่รัฐบาลก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปีนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ยังน่าเป็นห่วงสำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ การบริโภคในประเทศที่ยังขยายตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร และยอมรับว่ารัฐบาลได้มีความพยายามหลายครั้งที่จะทำให้การบริโภคในประเทศขยายตัวมากขึ้น แต่ยังคงทำได้ยาก
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--