แม้ว่าภาษีสินค้าและบริการจะสูงขึ้น แต่อัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคของสิงคโปร์ยังคงแข็งแกร่ง และนั่นอาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.2550 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกจะเติบโต 7.0% จากสถิติในปีก่อนหน้านี้ ส่วนยอดค้าปลีกเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 6.7%
นักเศรษฐศาสตร์ 3 ใน 5 คนที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลได้สอบถามความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์จะขยับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสินค้าและบริการ (GST) อีก 2% สู่ระดับ 7% ในเดือนก.ค.ก็ตาม
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์จะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้
นายซอง เซง วุน นักเศรษฐศาสตร์จาก CIMB-GK กล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความเคยชินกับภาษีสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะไม่เป็นการยับยั้งการใช้จ่าย เนื่องจากสิงคโปร์มีอัตราจ้างงานเกือบเต็มที่
อัตราว่างงานในสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 1.7% ในช่วงไตรมาสที่ 3 นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัว 9.4%
"ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ยอดขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" ชัว ฮัก บิน นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าว
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.ย.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3-1.5% จากสถิติในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% จากสถิติในเดือนก.ค.
เออร์วิน เซียห์ นักเศรษฐศาสตร์จากดีบีเอส วิคเกอร์สมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสินค้าและบริการ เขาคาดว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.ย.จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.4% จากสถิติในปีก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 0.3% จากสถิติในเดือนส.ค. ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--