อาเซียน-อียู ลงนามความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การเมือง ลดความสำคัญพม่า

          ในการประชุมสุดยอดครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์ของสหภาพยุโรปและอาเซียน กลุ่มผู้นำจากทั้งสองฝ่ายได้ประกาศแผนส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี และการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ (Treaty of Amity and Cooperation)
          "อียูต้องการกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ" โฮเซ่ บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว นอกจากนั้นยังเน้นย้ำว่าอาเซียนเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอียู
          ในการประชุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายลดความสำคัญที่มีให้กับปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพม่าโดยใช้เวลาพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวไม่ถึง 1 ชม.
          แม้จะเรียกว่าการประชุมสุดยอด แต่ตัวแทนจากประเทศสมาชิกอียูเป็นเพียงรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง มิใช่ผู้นำประเทศอย่างที่ควรจะเป็น ด้านประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียน ผู้นำหลายประเทศอย่างฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน ก็เดินทางกลับประเทศไปก่อนหน้านี้ ส่วนพม่าก็ส่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศมาเป็นตัวแทน
          นายหลี่ เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอดว่า "แม้ปัญหาในพม่าจะเป็นประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและอียูก็ไม่ควรถูกเพิกเฉย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังสามารถสร้างความร่วมมือในอีกหลายๆด้านเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย"
          แถลงการณ์ร่วมกันดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประชุมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองในพม่า และตอบรับการตัดสินใจของรัฐบาลทหารพม่าที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติและเริ่มการเจรจากับนางอองซานซูจี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน