นักวิเคราะห์กล่าวว่า กรณีที่เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ลดการถือหุ้นในธนาคารของจีน ชี้ให้เห็นว่า เทมาเส็กต้องการลดความเสี่ยงจากการเข้าลงทุนในธนาคารพาณิชย์ของจีนและยังสะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขขาดทุนอย่างหนักจากการลงทุนในตลาดปล่อยกู้เพื่อการจำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำในสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนเชียลรายงานว่า วู ยัง กัง นักวิเคราะห์ของกัวไถ่ จูนาน ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า เทมาเส็กลงทุนในธนาคารจีนแหล่งแห่ง และธนาคารจีนบางรายที่เทมาเส็กถือหุ้นอยู่ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตซับไพรม์ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจจะเป็นการส่งสัญญาณว่า เทมาเส็กกำลังปรับพอร์ทการลงทุนในจีนเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินจีน
ทั้งนี้ บีเอ็นพี พาริบาส์ ได้ลดอันดับความน่าลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารของจีนลงสู่ระดับ "neutral" จากเดิมที่ "overweight" ในรายงานลูกค้าช่วงเช้าวันนี้
ทางด้านดอร์ริส ชาน ผอ.หลักทรัพย์ของบีเอ็นพี พาริบาส์ ในเอเชีย กล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยและการคุมเข้มด้านการเงินของจีนก่อให้เกิดผลกระทบตาม คือ การชะลอตัวลงของการปล่อยกู้และหนี้เอ็นพีแอลที่สูงขึ้นในปีหน้า
เทมาเส็ก โฮลดิ้ง กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า เทมาเส็กได้ขายหุ้น 280 ล้านหุ้นที่ถืออยู่ในธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ของจีนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยให้เหตุว่าเป็นการปรับพอร์ทการลงทุน
สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า โฆกของเทมาเส็กกล่าวว่า "เราขอยืนยันว่าเราได้ขายหุ้นในธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ไปแล้ว 280 ล้านหุ้น จากระดับการลงทุนในหุ้นไอพีโอ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 2%ของจำนวนหุ้นที่เทมาเส็กถืออยู่ในธนาคาร และยังเป็นการดำเนินการเพื่อปรับพอร์ทการลงทุน"
ทั้งนี้ เทมาเส็กได้เสนอขายหุ้น 280 ล้านหุ้นที่ราคา 7.09 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น โดยให้มอร์แกน สแตนลีย์รับผิดชอบด้านการขาย
ก่อนหน้าที่จะขายหุ้น เทมาเส็กได้ขายหุ้นของธนาคารที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงไปแล้วมูลค่า 1.35 หมื่นล้านหุ้น หรือ 6.15% จำนวน 2.24 แสนล้านหุ้นฮ่องกง
เมื่อต้นสัปดาห์ เทมาเส็กก็ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในแบงค์ ออฟ ไชน่า จำนวน 1.08 พันล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 4.45 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่าปรับพอร์ทการลงทุนเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--