สภาทองคำโลก (World Gold Council) เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ถีบตัวสูงขึ้น 19% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 947 ตัน ซึ่งส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าปรับตัวสูงขึ้นอีก 9%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า จากสถานการณ์ความผันผวนในตลาดเงินที่เป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐได้ทำให้นักลงทุนรายย่อย และกลุ่มกองทุนบำนาญ โยกย้ายฐานการลงทุนไปซื้อขายยังตลาดปลอดความเสี่ยงในสินค้าประเภททองคำ ซึ่งถือเป็นตัวเลือกของแหล่งลงทุนอีกแห่งหนึ่งในยามที่ตลาดเงินเผชิญความปั่นป่วน
เจมส์ เบอร์ตัน ซีอีโอของสภาทองคำโลกกล่าวย้ำถึงมุมมองของเขาว่า "เห็นได้ชัดเจนว่า ตลาดทองคำเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดความเสี่ยง รวมถึงลักษณะของการซื้อขายในตลาดที่รับประกันความเสี่ยงกลายเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจไร้ซึ่งเสถียรภาพ ท่ามกลางกระแสความหวั่นวิตกต่อภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ยอดการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนที่ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นมีจำนวนรวมทั้งสิ้นที่ 138 ล้านตัน ซึ่งพุ่งทะยานขึ้นทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 ที่ระดับ 113 ตัน
นอกจากนี้ อุปสงค์ทองคำที่ใช้ในการผลิตอัญมณียังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสดังกล่าว โดยยอดขายในจีนและตลาดเกิดใหม่หลายแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ยอดขายในญี่ปุ่นโตขึ้น 7%
ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) งวดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 15.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 814.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--