ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ตลาดฮ่องกงบ่ายวันนี้ (14 พ.ย.) ซึ่งเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับต่ำ และจากภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกขึ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาทำธุรกรรม carry trade ในตลาด
ตลาดเงินยังได้รับความวิตกกังวลว่า ธนาคารจะรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ย่ำแย่จากการบริหารสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาซับไพรม์ ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นไม่มีความน่าดึงดูด ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจกระตุ้นให้นักลงทุนทำธุรกรรม carry trade ด้วยการกู้ยืมเงินเยนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำไปลงทุนในสินทรัพย์ หรือเงินสกุลอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 0.5% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ 111.10 เยนต่อดอลลาร์ ขยับขึ่นจากระดับ 110.99 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ และแข็งค่าขึ้นจาก 110.90 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดที่ 111.17 ต่อดอลลาร์ในช่วงเที่ยงของวันนี้ หลังจากที่พุ่งทะยานแข็งค่าขึ้น 109.82 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.2549
ด้านค่าเงินยูโรเคลื่อไหวแข็งค่าขึ้นแตะ 1.4659 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งสูงขึ้นจากระดับ 1.4621 ดอลลาร์ต่อยูโรในเช้านี้ และจากระดับ 1.4600 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 1.4663 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเที่ยงวันทำการ
ทั้งนี้ นายยาซูโอะ ฟูกูดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเร็วเกินไป ซึ่งธนาคารกลางควรจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างระมัดระวัง รวมทั้งต้องควบคุมการแข็งค่าของเงินเยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--