บล.กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (10-14 ม.ค.65) มีแนวรับอยู่ที่ 1,645 และ 1,620 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,680 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีราคานำเข้าและดัชนีราคาส่งออกเดือนธ.ค. 64 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. 64 ของจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค. 64 ของญี่ปุ่น ตลอดจนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. 64 ของยูโรโซน
สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นไทยผันผวน ก่อนจะกลับมาปิดที่ระดับเดียวกับระดับปิดของสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,657.62 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 97,177.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.04% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 8.53% มาปิดที่ 631.79 จุด ทิศทางหุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงซื้อต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารและไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นมากสุด
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยร่วงลงแรงในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความกังวลต่อการเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และการเร่งศึกษาการเก็บภาษีจากการขายหุ้นของกรมสรรพากร แต่กระนั้นดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์