คณะกรรมาธิการประมงของสหภาพยุโรปหรืออียูได้ผลักดันให้จีนยกเลิกการประมงโดยผิดกฎหมายที่ท่าเรือของประเทศสมาชิกอียู และนำปลาที่จับได้ไปแปรรูปเพื่อจัดจำหน่ายไปทั่วโลก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้กับสายพันธุ์ปลาที่กำลังจะสูญพันธุ์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโจ บอร์ก คณะกรรมาธิการอียูที่รับผิดชอบด้านการประมงและกิจการทางน้ำ กล่าวว่า อียูและจีนเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม และทั้ง 2 ฝ่ายมีหน้าที่ในการยุติการประมงโดยผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการกระทำที่คุกคามวิถีชีวิตของประชาชนคนสุจริตที่ทำงานด้านการค้า
นายบอร์กยกตัวอย่างการจับปลาที่ทะเลแบริ่ง ซึ่งการจับปลาค็อดถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และหลังจากนั้นก็จะมีการนำปลาที่จับได้ไปแปรรูปในจีนก่อนที่จะนำมาจำหน่ายในตลาดยุโรป
บอร์กกล่าวต่อไปว่า แต่ละปีจะมีการจับปลาผิดกฎหมายทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ 8 พันล้านยูโร หรือ 1.17 หมื่นล้านดอลลาร์ ถึง 9 พันล้านยูโร โดยไม่คำนึงถึงปริมาณและสายพันธุ์ปลาว่าสามารถจับได้หรือไม่ได้ ซึ่งส่งกระทบต่อปลาที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วอย่าง ปลาค้อดหรือปลาทูน่า
คำกล่าวของผู้แทนอียูมีขึ้นหลังจากที่เขาได้พบกับรัฐมนตรีจีนในปักกิ่ง เพื่อเจรจาในเรื่องกิจการทางน้ำ รวมทั้งการประมงและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน อียูกำลังเสนอให้มีการใช้ระบบการรับประกันที่ท่าเรือว่า ปลาทั้งหมดที่ถูกจับขึ้นมานั้นผ่านการดำเนินการที่ถูกกฎหมาย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--