นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะไข่ไก่ และเนื้อไก่ที่ทยอยปรับขึ้นราคาว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว แต่อาจมีการฉกฉวยขึ้นราคา ดังนั้นจะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี หากมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ก็สามารถทำเรื่องเสนอมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็นจริงๆ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบาย และเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปติดตามราคาเนื้อไก่ และไข่ไก่ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีที่เนื้อหมูได้ขึ้นราคาไปแล้ว ขณะเดียวกัน ยังจะต้องช่วยเหลือดูแลกับเกษตรกรรายย่อยด้วย โดยจะต้องสร้างสมดุลกันระหว่างผู้บริโภค และเกษตรกรรายย่อย
ส่วนการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากเนื้อหมูขึ้นราคาไปแล้วนั้น นายจุรินทร์ ย้ำว่า ขณะนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา ที่กำหนดราคาหมูเนื้อแดงไว้คงที่ในกิโลกรัมละ 150 บาท กว่า 600 จุด พร้อมเตรียมเสนอของบกลาง เพื่อเร่งมาชดเชยราคาในโครงการฯ ที่ตรึงไว้ 150 บาทต่อกิโลกรัม และอุดหนุนกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงหมูต่อไป และไม่ให้เกิดภาวะหมูขาดแคลนในอนาคต โดยในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) จะชี้แจงด้วยวาจาให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบก่อนในเบื้องต้น
"ยอมรับว่า การพิจารณานำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศนั้น จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะจะต้องระมัดระวังโรคติดต่อที่มากับหมู และสุขอนามัย รวมถึงข้อกดดันทางการค้าอื่นๆ ประกอบด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว