นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (SEOM Retreat) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รับทราบประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่กัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนเสนอให้อาเซียนร่วมกันดำเนินการให้สำเร็จในปี 2565 ภายใต้แนวคิด "ASEAN A.C.T. : Addressing Challenges Together" จำนวน 17 ประเด็น ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน ได้แก่
1. การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางดิจิทัล วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อาทิ การพัฒนาระบบนิเวศสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น (Startups) ด้านดิจิทัล
2. การลดช่องว่างการพัฒนาเพื่อความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน อาทิ การจัดทำแผนงานสำหรับกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน
3. การส่งเสริมการบูรณาการและความสามารถในการแข่งขันที่มากขึ้นของอาเซียน อาทิ การเริ่มเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน
4. การเป็นส่วนสำคัญของประชาคมโลกเพื่อการเติบโตและการพัฒนา อาทิ การสรุปการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการมีผลใช้บังคับของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับประเทศผู้ลงนามทั้งหมด
"มาตรการเหล่านี้ จะช่วยสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดช่องว่างการพัฒนา และทำให้เกิดความยั่งยืนของภูมิภาค" อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุ
ด้าน น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือแผนการทำงานของอาเซียนด้านเศรษฐกิจปี 2565 โดยเฉพาะการดำเนินการตามกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน (ASEAN Comprehensive Recovery Framework) และแนวทางการปรับปรุงกระบวนการทำงานของอาเซียนในสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับทิศทาง และสถานการณ์ของภูมิภาคและของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะมาตรการสำคัญที่เสาเศรษฐกิจจะต้องดำเนินการในปี 2565 เช่น การขยายเอกสารที่แลกเปลี่ยนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window) การจัดทำแผนดำเนินงานในเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และการจัดทำกรอบเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน เป็นต้น ซึ่งประเด็นและมาตรการดังกล่าวจะมีความสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ในปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา โดยจะเร่งการเจรจารอบแรกให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้ข้อสรุปตามเป้าหมายที่วางไว้ภายใน 2 ปี และการเตรียมการสำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ ที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมอุตสาหกรรม รวมถึงการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ระหว่างอาเซียนและเกาหลีใต้ รวมถึงหารือประเด็นการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต โดยเบื้องต้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดประชุมเพื่อประเมินความพร้อมและแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสมในการเข้าร่วมความตกลงด้านเศรษฐกิจของติมอร์-เลสเต
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 100,709 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 58,935 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียนมูลค่า 41,773 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์