เศรษฐกิจของอินโดนีเซียคาดว่า จะเติบโตที่ระดับ 5.5-6.4% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์ 8 คนที่ธอมสัน ไฟแนนเชียล นิวส์ สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในช่วงไตรมาสที่ 3 จะขยายตัว 3.0-3.9% จากสถิติในไตรมาสที่ 2 ที่เติบโต 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้น 6.0% ในช่วงครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า GDP ตลอดทั้งปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 6.1-6.3% ขณะที่รัฐบาลคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 6.3%
"มีแนวโน้มว่า GDP ในช่วงไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวมากกว่าสถิติในปีก่อนหน้านี้ โดยคาดว่า จะขยายตัว 6.3% เนื่องจากความต้องการทั้งภายในและนอกประเทศเพิ่มขึ้น" เดวิด โคเฮ็น นักเศรษฐศาสตร์จากแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์ ของสิงคโปร์กล่าว
ฟัวซี อิชซาน นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงค์ กล่าวว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลง อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ปรับลดดอกเบี้ย ถือป็นปัจจัยที่กระตุ้นการบริโภคและการลงทุน
ในช่วงระหว่างเดือนพ.ค. 2549 ถึงเดือนก.ค. 2550 ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับลดดอกเบี้ยแบบสะสมลง 4.5% สู่ระดับ 8.25%
ธนาคารกลางกล่าวว่า อัตราการปล่อยกู้ของธนาคารเพิ่มขึ้น 21.5% แตะ 957 ล้านล้านรูเปียห์ ในช่วงสิ้นสุดเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากอัตรากู้ยืมลดลง ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--